YLG ชี้ราคาทองต่ำสุดรอบ 2 ปี น่าซื้อสะสม-ลุ้นสิ้นปี 1,300 ดอลลาร์

ราคาทองคำต่ำสุดในรอบ 2 ปี “พวรรณ์” ซีอีโอ YLG แนะนักลงทุนระยะยาวทยอยสะสม ลุ้น 4 ปัจจัยบวก หนุนราคาปลายปีวิ่งถึง 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ “วิน” CIO บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เชียร์เพิ่มน้ำหนักลงทุนทองเป็น 5-10%

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำในปัจจุบันลดลงมาต่ำสุดในรอบ 2 ปี และมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้น จึงเป็นจังหวะสำหรับนักลงทุนระยะยาวจะทยอยซื้อสะสม หรือ อาจจะรอจังหวะเข้าซื้อหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือน ก.ย. นี้

ราคาทองคำ 5 ปีย้อนหลัง

“นักลงทุนระยะยาวทยอยเข้าได้ แต่อย่าเข้าทีเดียวทั้งก้อน เพราะหากประเมินจากปัจจัยทางเทคนิคแล้วราคาลงมา Low มากแล้วและพร้อมที่กลับตัวเป็นขาขึ้น เพราะมีปัจจัยบวกกับราคาทองมากกว่าปัจจัยลบ แต่ที่ผ่านมาปริมาณการซื้อจากจีนและอินเดียหายไป ขณะที่นักลงทุนสถาบันในตลาด COMEX น่าจะ long มากกว่า Short แต่ก็ยัง Short มากกว่า Long เพราะฉะนั้นในระยะสั้นราคาอาจจะปรับลงไปได้อีก แต่เชื่อว่าคงจะลงได้อีกไม่นาน” นางพวรรณ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนระยะสั้น นางพวรรณ์ แนะนำว่า หากมีกำไรควรขายและออกมาเฝ้าติดตามราคาทองคำก่อนตัดสินใจลงทุนต่อไป

“แนวโน้มราคาทองคำปีนี้ดูยาก ถือเป็นปีปราบเซียน โดยต้องจับตา 4 ปัจจัยต่อไปนี้ ได้แก่ Dollar Index, สงครามการค้า, อัตราดอกเบี้ย และความต้องการซื้อจากจีน-อินเดีย ซึ่งหากทั้ง 4 ปัจจัยออกมาเป็นบวก มีความเป็นไปได้ที่ในช่วงปลายปีราคาทองคำจะปรับขึ้นไปที่ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์” นางพวรรณ์ กล่าว

นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซีไอเอ็มบี พรินซิเพิล แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนทองคำเป็น 5-10% ของพอร์ต เนื่องจากราคาทองคำในปัจจุบันลดลงมาจนถึงระดับที่น่าลงทุน

ราคาทองคำที่ลงมาอยู่ต่ำกว่า 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (หรือ ประมาณบาทละ 18,500 บาท) นับว่าน่าสนใจลงทุน เพราะต้นทุนเงินสดรวมของการขุดทองหน้าเหมืองเฉลี่ยอยู่ที่ 1,083 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

ราคาทองที่ระดับ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำให้เหมืองมีกำไรขั้นต้นต่ำกว่า 10% เมื่อราคาทองคำในตลาดโลกลงไปใกล้ต้นทุนจะทำให้บางเหมืองต้องหยุดกิจการ อุปทานหายไป ราคาก็เด้งขึ้นมาใหม่ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2558

ในขณะเดียวกัน ราคาทองมักสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งในช่วงนี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาก โดย Dollar Index ขึ้นไปแตะ 96.54 สูงสุดในรอบปี ดังนั้นหากดอลลาร์กลับทิศอ่อนค่าลง ก็จะช่วยให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้

“อย่างไรก็ตาม ไม่อาจฟันธงว่า ราคาทองคำถึงจุดต่ำสุดแล้ว เพราะอาจมีปัจจัยอื่นกดราคาลงไปอีกได้ เพียงแต่แนะนำให้นักลงทุนควรใช้จังหวะนี้ในการเพิ่มน้ำหนักทองคำในพอร์ต” นายวิน กล่าว