HoonSmart.com>> สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์” เตรียมขายหุ้นกู้ อายุ 4 ปี 29 วัน อัตราดอกเบี้ย 3.50% เปิดจอง 20-21 และ 24-25 ม.ค.นี้ นำเงินชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนด และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เชื่อได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเชื่อมั่นโอกาสการเติบโตธุรกิจ ด้านทริสจัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กร-หุ้นกู้ ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่”
นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 ต่อผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering) อายุหุ้นกู้ 4 ปี 29 วัน โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 20-21 และวันที่ 24-25 ม.ค.2565 กำหนดการจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก ๆ 100,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป และทวีคูณทุก ๆ 10,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน
บริษัทฯ มีแผนนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในเดือนม.ค.2565 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยมีสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย , ธนาคารยูโอบี), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และ ธนาคารทหารไทยธนชาต เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
นายศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า SGP ได้รับเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ให้เข้าไปอยู่ในดัชนี FTSE SET Shariah Index ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2564 เป็นต้นไป การที่ SGP ผ่านเกณฑ์เข้าคำนวณในดัชนี FTSE SET Index Series ในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ SGP เป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนในระดับสากลมากขึ้น ซึ่งมีโอกาสช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจในอนาคตได้อีกด้วย โดยตลอดการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา SGP ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) มาโดยตลอด ถือว่า SGP จะเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่เหมาะกับผู้ลงทุนทุกประเภทที่ต้องการผลตอบแทนแบบยั่งยืน (Sustainability Investment)
สำหรับหุ้นกู้ที่จะจัดจำหน่ายในครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม Stable จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยอันดับความน่าเชื่อถือจะสะท้อนถึงสถานะของบริษัทฯ ในการเป็นผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในประเทศไทย รวมถึงการมีเครือข่ายกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง และมีฐานลูกค้าที่กระจายตัวอย่างกว้างขวาง รวมถึงแนวโน้มการเติบโตในตลาดต่างประเทศ
ในส่วนของผลดำเนินงานในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย ขนส่ง และให้บริการเป็นจำนวนเงิน 54,691.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 2,816.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2563 ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 1,045.21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 170% โดยสาเหตุหลักมาจากธุรกิจก๊าซ LPG ในต่างประเทศที่บริษัทได้เข้าไปลงทุน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท