HoonSmart.com>>”บอร์ดสินมั่นคงประกันภัย” อนุมัติเสนอผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุน 66 ล้านหุ้น ขายให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง ราคาไม่ต่ำกว่า 21.52 บาท/หุ้น ระดมเงิน 1,420.32 ล้านบาท ออกตัวขอเวลาพิจารณาข้อเสนอสุดท้ายของนักลงทุนที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันอีกครั้ง แก้ข้อบังคับ เปิดทางต่างชาติถือหุ้นเกิน 25%
นายเรืองวิทย์ ดุษฎีสุรพจน์ ประธานคณะกรรมการบริษัท บริษัทสินมั่นคงประกันภัย (SMK) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 18 ก.พ.2565 โดยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวนไม่เกิน 66 ล้านบาท เป็นทุนใหม่ 266 ล้านบาท โดยเสนอขายให้ให้แก่ผู้ลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (พีพี) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย และไม่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในราคาไม่ต่ำกว่า 21.52 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1,420.32 ล้านบาท คาดเสนอขายหุ้นแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 เดือน นับจากวันที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติ แต่หากพ้นกำหนด 3 เดือนต้องกำหนดราคาขายใหม่
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอสุดท้ายของนักลงทุนที่แสดงความสนใจเข้าร่วมแข่งขันเสนอราคา เมื่อสามารถคัดเลือกผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจงที่ชนะการเสนอราคาได้แล้ว จะจัดการประชุมคณะกรรมการบริษัทอีกครั้ง คาดว่าจะดำเนินการภายในวันที่ 31 ม.ค.2565 โดยผู้ลงทุนใหม่ไม่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) เพราะถือไม่เกิน 24.8% ของทุนชำระแล้ว
นอกจากนี้มีการเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการแก้ไขข้อ 5 ของข้อบังคับบริษัท เพิ่มความยืดหยุ่นมากขึ้น และเพื่อรองรับการลงทุนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต คือหุ้นสามารถโอนได้โดยไม่มีข้อจำกัด เว้นแต่การโอนหุ้นมีหรือจะมีผลให้คนต่างด้าวถือหุ้นเกินกว่า 25% เว้นแต่ข้อกำหนดให้คนต่างด้าวถือหุ้นเกินกว่า 25% ในกรณีที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ การอนุญาต การผ่อนผันหรือคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง ถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงของบริษัท ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน เนื่องจากเป็นบุคคลที่จะได้รับการเสนอให้เป็นผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท โดยมีสาเหตุมาจากที่ผู้ลงทุนจะมีสิทธิเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัท
ด้านหุ้น SMK ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รับข่าวบริษัทกำลังเจรจาหาผู้ร่วมทุนใหม่ หนุนราคาขยับจากระดับต่ำกว่า 21 บาท ขึ้นมาปิดที่ 24.20 บาท วันที่ 28 ธ.ค.2564