รมว.คลังเชื่อศก.ไทยปี 65 โตได้ 4% เน้น ”กำลังซื้อในประเทศ-เศรษฐกิจฐานราก”

HoonSmart.com>>รัฐมนตรีคลัง เชื่อเศรษฐกิจไทยปี 65 โตได้ 4% เน้นการเติบโตจากภายใน หนุนเศรษฐกิจฐานรากและการค้าชายแดน ขณะที่ออมสินประกาศโครงการ”สร้างงาน สร้างอาชีพ” วงเงิน 5,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการและคนตกงาน อย่างยั่งยืน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิด”โครงการออมสิน สร้างงาน สร้างอาชีพ”ว่า เศรษฐกิจไทยปี 2565 น่าจะเติบโตได้ 4% จากการทำงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา การปลดล็อคประเทศ การส่งออกที่ขยายตัวดีขึ้นและการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ทำให้ประชาชนมั่นใจในการใช้จ่าย ส่วนการระบาดของโอมิครอน ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งการระบาดที่เกิดขึ้นจะกระทบการเดินทางมาท่องเที่ยวของต่างประเทศ

“ปี 2565 รัฐบาลจะเน้นการเติบโตจากในประเทศ จากประชาชนระดับฐานราก ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชนในการรักษาโมเมนตัมการใช้จ่าย การส่งเสริมเศรษฐกิจในต่างจังหวัด โดยเฉพาะการค้าชายแดน ” นายอาคมกล่าว

ขณะที่โครงการ”ออมสิน สร้างงาน สร้างอาชีพ”เป็นมาตรการตามนโยบายของรัฐบาลและเป็นหนึ่งในของขวัญที่รัฐบาลมอบให้ โดยมอบหมายให้ธนาคารออมสิน ช่วยฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนที่ตกงานหรือขาดรายได้ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมี กรุงเทพมหานคร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และสถาบันอุดมศึกษา ร่วมเป็นหน่วยงานพันธมิตรในการขับเคลื่อนโครงการฯ

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารจัดทำโครงการ “ออมสิน สร้างงาน สร้างอาชีพ” วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท และ ครม.อนุมัติวงเงินชดเชยความเสียหายจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 30% ของวงเงินสินเชื่อโครงการ โดยภายใต้แนวคิด “4 ให้” ได้แก่ ให้ทักษะ ให้เงินทุน ให้อุปกรณ์ และให้พื้นที่ค้าขาย ซึ่งถือเป็นการมอบความช่วยเหลือที่ยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ที่เดือดร้อนจำนวนมาก ได้มีการปรับตัวและมองเห็นโอกาสใหม่ในการประกอบอาชีพ เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส สามารถใช้ความรู้ใหม่และทักษะทางอาชีพที่ได้รับการถ่ายทอด เป็นทางเลือกและช่องทางต่อยอดในการประกอบอาชีพมากขึ้น โดยมีธนาคารออมสินและพันธมิตรคอยช่วยเหลือเคียงข้าง ให้สามารถยังชีพตนเองและดูแลครอบครัวต่อไปได้

“โครงการ ออมสิน สร้างงาน สร้างอาชีพ ถือเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับประชาชน ให้อยู่รอดและพึ่งพิงตนเองได้ในระยะยาว สอดคล้องกับบทบาทของธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อสังคม (Social Bank) ที่มีเป้าหมายหลักคือ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินที่เป็นธรรม และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและนโยบายรัฐ เพื่อร่วมกันก้าวผ่านวิกฤติและความยากลำบากนี้ไปด้วยกัน” นายวิทัยกล่าว

ทั้งนี้ในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้จัดทำโครงการช่วยรายย่อยแล้ว 36 โครงการ มีประชาชนได้รับความช่วยเหลือ 11.6 ล้านราย คิดเป็นวงเงิน 1.8 ล้านล้านบาท