บล.เอเซียพลัสวิเคราะห์หุ้นกลุ่มเกษตร-อาหาร ให้น้ำหนักเท่ากับตลาด ราคาถั่วเหลืองเพิ่มเป็นผลดีกับผู้ประกอบการอาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ส่วน TVO เป็นปัจจัยลบ ราคาน้ำตาลเพิ่ม KSL เด่นที่สุด
บล.เอเซียพลัสวิเคราะห์กลุ่มเกษตร-อาหาร ให้น้ำหนัก”เท่าตลาด” กรณีราคากากถั่วเหลืองในตลาดล่วงหน้าสหรัฐอเมริกาลดลง ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อผู้ประกอบการอาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ซึ่งมีต้นทุนกากถั่วเหลืองคิดเป็นสัดส่วน 30% ของค่าใช้จ่ายทางด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งหมด ฝ่ายวิจัยจึงยังแนะนำซื้อ CPF (มูลค่าเหมาะสม 30 บาท) GFPT (มูลค่า 13.90 บาท ) และ TFG (มูลค่า 4.50 บาท) ขณะที่ธุรกิจเป็ดของ BR (มูลค่า 6 บาท) ยังฟื้นตัวช้าจึงแนะนำ Switch ไปลงทุน CPF แทน
นอกจากนั้น ราคากากถั่วเหลืองที่ปรับลดลงจะส่งผลลบต่อ TVO (มูลค่า 31 บาท) เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์อิงกับราคาตลาดโลก และมีรายได้จากการขายกากถั่วเหลืองคิดเป็นสัดส่วน 60% ของรายได้รวม
ส่วนราคาน้ำตาลดิบในตลาดโลก ณ วันที่ 30 ส.ค. 2561 เท่ากับ 10.57 เซ็นต์/ปอนด์ ปรับเพิ่มขึ้น 4.4% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อราคาขายเฉลี่ยปี 2561/2562 ในกลุ่มน้ำตาล ได้แก่ KSL KTIS, KBS และ BRR อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยประเมินว่าแนวโน้มราคาน้ำตาลโลกจะทยอยฟื้นตัวในปี 2561-2562 จากแนวโน้มส่วนเกินผลผลิตน้ำตาลโลกจะลดลงและราคาหุ้นกลุ่มน้ำตาลได้ปรับฐานรับราคาน้ำตาลที่ลดลงไปมากแล้ว จึงเน้นหาจังหวะทยอยเข้าลงทุน KSL (มูลค่า 4.50 บาท)
ทางด้านราคาไก่เป็น ณ วันที่ 30 ส.ค. 2561 เท่ากับ 38 บาท/กก. ทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่ราคาเฉลี่ยในปีนี้ เท่ากับ 33.97 บาท/กิโลกรัม ลดลง 11.2% ยังสอดคล้องกับสมมติฐานราคาไก่เป็นเฉลี่ยปี 2561 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ที่ 34 บาท/กิโลกรัม
ฝ่ายวิจัยประเมินราคาไก่ในประเทศที่ทยอยฟื้นตัวในช่วงเดือนส.ค. เช่นเดียวกับ ราคาสุกรหน้าฟาร์ม จะส่งผลบวกต่อแนวโน้มธุรกิจในงวดครึ่งปีหลัง จึงแนะนำเข้าลงทุน GFPT,TFG และ CPF