“ทรีนีตี้” แนะถือหุ้นกลุ่มบริโภคในประเทศ-ปันผลสูง รอ Let profit รอบใหญ่

HoonSmart.com>> บล.ทรีนีตี้ มองตลาดซึมซับโอมิครอน-เฟด พอสมควรแล้ว ด้านบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ รุ่นยาวนิ่ง 1.50% ผลบวดตลาดหุ้น คาดเห็นดัชนี 1,660 จุดช่วง 4 เดือนแรกปี 65 แนะถือหุ้น เพื่อ Let profit รอบใหญ่ ชี้เป้า 2 กลุ่ม Domestic consumption และกลุ่มหุ้น High dividend

บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ มอง 2 ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโลก ณ ขณะนี้ ได้แก่ การแพร่ะรบาดของ Omicron และแนวนโยบายของ Fed ได้ซึมซับเข้าไปอยู่ในราคาสินทรัพย์ทั้งหลายพอสมควรแล้ว จึงเริ่มเห็นปรากฎการณ์ Buy on fact ในตลาดหุ้นมากขึ้นอย่างเช่นเมื่อคืนนี้ ที่สำคัญ แม้จะมีความกังวลของนักลงทุนบางส่วนในตลาดต่อ Action ของ Fed ที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงปัจจัยเงินเฟ้อที่ลากยาวมากขึ้น

อย่างไรก็ตามแต่จากการที่ Bond Yield สหรัฐฯ รุ่นยาวยังคงแกว่งตัวนิ่งอยู่ที่ระดับ 1.50% นี้ มองจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นในมิติของ Earning yield gap (EYG) ต่อไป ล่าสุดของไทยอยู่ที่ระดับ 4.46% ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 4.26% ต่อปี

บล.ทรีนีตี้ยังยืนยันการปรับตัว Sideways up ของ SET INDEX สู่ระดับเป้าหมายที่ 1,660 จุดต่อไป ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้ค่า EYG นี้กลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาวอีกครั้ง โดยมองกรอบเวลาการปรับถึงเป้าหมายภายในช่วง 4 เดือนแรกของปีหน้านี้ แนะนักลงทุนถือครองหุ้น เพื่อ Let profit ในรอบใหญ่ โดยยังคงเน้นการถือครองไปยังหุ้น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Domestic consumption และกลุ่มหุ้น High dividend

ทั้งนี้ผลการประชุมของ Fed มีมติเพิ่มอัตราเร่งการลดวงเงิน QE เป็น 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือนตามคาด ซึ่งจะทำให้โครงการ QE ของ Fed สิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.2565

ส่วนค่ากลางของ Dot plots ปี 2565-2567 มีการขยับขึ้นตามคาด โดยค่า Median และค่า Mode ปี 2565 ขยับขึ้นมาที่ระดับ 0.75-1.00% สะท้อนมุมมองกรรมการส่วนใหญ่ที่เห็นควรว่า Fed น่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 3 ครั้งในปีหน้า

การขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 3 ครั้งที่ Imply จาก Dot plots ในครั้งนี้ถือเป็นระดับใกล้เคียงกันกับสิ่งที่ตลาด Price in ผ่าน Fed Funds futures ณ ขณะนี้ ปัจจัยเมื่อคืนจึงไม่ได้มีผลกระทบสำคัญต่อตลาด ซึ่งเป็นไปตามที่บล.ทรีนีตี้ประเมินไว้