“เฟด” เร่งลด QE เดือนละ 3 หมื่นล้านเหรียญฯ เริ่มม.ค.ปีหน้า จบมี.ค.65

HoonSmart.com>> ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติคงดอกเบี้ย เร่งปรับลดวงเงิน QE เดือนละ 3 หมื่นล้านเหรียญฯ จากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านเหรียญฯ เริ่มเดือนม.ค.65 ยุติโครงการ QE เดือนมี.ค.65 ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น 3 ครังปีหน้า โบรกฯ มองผลประชุมตามตลาดคาด

บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) วานนี้มีประเด็นสำคัญ คือ 1. ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0-0.25% สอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ และ2.มีมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้น: สะท้อนจาก Fed ปรับเพิ่มประมาณการ GDP สหรัฐปี 2565 ขึ้นเป็น 4%yoy จาก 3.8%yoy, อัตราการว่างงานปี 2564-2565 ปรับลงเหลือ 4.3% และ 3.5% จาก 4.8% และ 3.8% ตามลำดับ และอัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มเป็น 5.3%, 2.6%, 2.3% จาก 4.2%, 2.2%, 2.2% ในปี 2564-2566 ตามลำดับ

3. Fed ส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินที่โน้มเอียงไปทางด้านตึงตัวมากขึ้น 3.1. การปรับลดวงเงิน QE (QE Tapering): ประกาศแผน QE Tapering ใหม่ ซึ่งเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยในเดือน ม.ค. 2565 จะเร่งทำ QE Tapering เพิ่มเป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านเหรียญ จากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านเหรียญ ส่งผลให้มาตรการ QE จะสิ้นสุดเดือน มี.ค. 2565 (กราฟเส้นสีส้ม) จากเดิมสิ้นสุดในเดือน มิ.ย. 2564 (กราฟเส้นสีเขียว) สอดคล้องกับที่ ตลาดและ ASPS เคยนำเสนอไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

3.2. Fed ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้น: สะท้อนจาก (Dot plot) พบว่า Fed ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 จำนวน 3 ครั้ง ส่วนปี 2566-2567 ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งแตกต่างจาก Dot plot เมื่อเดือน ก.ย. 2564 ที่ส่งสัญญาณว่าปี 2565 จะขึ้นเพียง 1 ครั้ง

“โดยสรุป แม้ Fed จะส่งสัญญาณนโยบายไปทางด้านตึงตัวมากขึ้น แต่กลับพบว่าตลาดการเงินโลกไม่ต้องตอบสนองมากนัก สะท้อนจากตลาดหุ้นสหรัฐสามารถพลิกกลับมาบวกได้ภายหลังการประชุม Fed เสร็จสิ้น, ตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียแกว่งทรงตัว, Dollar Index พักตัวหลังทดสอบแนวต้าน 97 จุด ขณะที่ Bond Yield สหรัฐปรับขึ้น”บล.เอเซีย พลัส ระบุ

อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ตลาดไม่ได้ตอบสนองเชิงลบมากนัก คาดว่าเกิดจากตลาดได้ตอบรับ (Price in) ประเด็น Fed ไปในระดับหนึ่งในช่วงที่ผ่านมาแล้ว สังเกตได้จากผลสำรวจของ Bloomberg ที่พบว่า ตลาดการเงินคาด Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565 ประเมินจากการตอบสนองในเชิงลบที่จำกัดของตลาดหุ้นและตลาดการเงินโลก เชื่อว่าจะช่วยให้ตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีโอกาสตอบสนองในเชิงลบอย่างจำกัดตามไปด้วย โดยประเด็น Fed ที่ต้องติดตามหลังจากนี้ คาดจะเป็นการเผยแพร่รายงานการประชุม Fed ของเดือน ธ.ค. 2564 ที่จะเผยแพร่ในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2565

บล.โนมูระ พัฒนสิน มองผลการะชุม Fed ถือเป็นการปลดล็อค overhang ประเด็น QE Tapering ที่ถ่วงตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมาในช่วงก่อนหน้า แต่แนวโน้ม hawkish ทางด้านดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่ตลาดต้องติดตาม โดยมองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ “Sideways” แนวต้าน 1,630/1,639 จุด แนวรับ 1,620/1,618 จุด สำหรับหุ้นวันนี้แนะนำ “Selective Play” : KCE, GUNKUL, GULF

บล.ทิสโก้ มองผลการประชุม FED เป็นไปตามที่และตลาดคาด สร้างความชัดเจนต่อตลาด ส่งผลให้หุ้นโลกตอบรับเชิงบวก มองหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยและ Bond Yield ปรับขึ้น คือ กลุ่มแบงก์ ชอบ BBL เราให้มูลค่าเหมาะสมที่ 174 บาท, SCB ราคาเหมาะสม 165 บาท, TTB ราคาเหมาะสม 1.51 บาท และ BLA ตลาดประเมินมูลค่าเหมาะสม 38.3 บาท

นอกจากนี้ นโยบายการเงิน FED ที่เข้มงวดขึ้น มีโอกาสจะหนุนเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากบาทอ่อน คือ หุ้นเกี่ยวข้องการส่งออกและมีรายได้ในรูปเงินดอลลาร์ฯ ชอบ HANA ราคาเป้าหมาย 122 บาท, KCE ราคาเป้าหมาย 93 บาท, MEGA ราคาเป้าหมาย 55.25 บาท, TWPC ราคาเป้าหมาย 6.9 บาท