กกร.เพิ่มเป้าส่งออกปี 2564 โต 13-15%

HoonSmart.com>>กกร.เพิ่มเป้าส่งออกปี 64 โต 13-15% คงคาดการณ์ GDP ที่ 0.5-1.5% ก่อนโต 3-4.5% ปี 65 ห่วงโอมิครอนความเสี่ยงใหม่ต่อเศรษฐกิจโลก จับตาความรุนแรงและการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย แถลงผลการประชุมประจำเดือน ธ.ค.64 ว่า กกร.คงคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวในกรอบ 0.5-1.5% แต่ปรับเพิ่มการส่งออกเป็น 13-15% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ความต้องการสินค้าที่สูงต่อเนื่อง แต่ยังต้องเร่งปัญหาการการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนเงินเฟ้อทั่วไปคาดอยู่ในกรอบ 1-1.2%

สำหรับปี 65 กกร. คาดเศรษฐกิจไทยขยายตัว 3.0-4.5% สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่ปีหน้าน่าจะเติบโตที่ 4-5% ขณะที่การส่งออกขยายตัว 3-5% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 1.2-2.0% ตามแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเรื่อง Geopolitics ของหลายประเทศ

“ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนอาจทำให้การฟื้นตัวต่อจากนี้ไปได้รับผลกระทบและต้องล่าช้าออกไป โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวเริ่มรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อ 1 พ.ย. ดังนั้น โอมิครอนจึงกลายเป็นความเสี่ยงใหม่ต่อเศรษฐกิจโลกในช่วงต้นปี 2565 จึงต้องจับตาความรุนแรงและความรวดเร็วของการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด”นายสนั่นกล่าว

กกร.ยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นในปี 2565 แม้มีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน เนื่องจากปัจจุบันไทยมีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูงและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการด้านสาธารณสุข และการเข้า-ออก ประเทศที่มีความเข้มงวด และไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป ทุกภาคส่วนควรปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นได้ชัดจากบทเรียนของการล็อกดาวน์ว่ามีต้นทุนต่อเศรษฐกิจและสังคมสูงมาก ทั้งผลกระทบโดยตรงจากการหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และทางอ้อมจากการบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนและผู้ประกอบการ

กกร. ยังได้มีการหารือในประเด็นสำคัญ เรื่องการเร่งปฏิรูปกฎหมาย (กีโยติน) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ ในช่วงเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็ง โดย กกร.ร่วมกับ คณะกรรมการกิโยติน และ คณะกรรมการพัฒนากฎหมาย โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา ผลักดันกฎหมายสำคัญ ๆ