MC เน้นกลยุทธ์รักษากำไร-ขยายธุรกิจใหม่รอกำลังซื้อฟื้น

“แม็คกรุ๊ป” ปรับกลยุทธ์เพิ่มกำไรมากกว่าเร่งเพิ่มยอดขาย พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ รอจังหวะการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัว พร้อมเรียกความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้นปันผลระหว่างกาล 40 บาท/หุ้น พร้อมอัดงบ 120 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนในตลาด

นางสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยว่า ผลจากการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวจากราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน บริษัทฯ จึงปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลประกอบการมากกว่าการเร่งเพิ่มยอดขายในช่วงเวลาดังกล่าว โดยใช้กลยุทธ์การพัฒนาสินค้าที่ตรงกับความต้องการเฉพาะกลุ่มและความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจด้านต่างๆ เพื่อบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านระบบสมาชิก “Mc Club” ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบ Mc Selvedge Walker และ เสื้อยืดคอลเลคชั่น Mc Basic ที่ได้รับการตอบรับเกินคาดทั้งหน้าร้านและในโลกโซเชียลมีเดีย เสื้อเชิ้ต Anti Mosq ที่มีคุณสมบัติป้องกันยุงด้วยสารสกัดจากดอกเบญจมาศ Mc Biker Denim ‘Motorcycle Series’ ที่กำลังจะมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมาภายหลังกระแสตอบรับที่ดีในคอลเลคชั่นแรก กิจกรรมต่างๆที่ร่วมมือกับพันธมิตรสินค้ากลุ่ม Lifestyle ควบคู่ไปกับการเปิดจุดจำหน่ายใหม่และเชื่อมโยงหน้าร้าน (Offline) กับช่องทางออนไลน์ตามกลยุทธ์ Omni Channel

นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชีและผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในทุกๆ ด้าน เพื่อรอจังหวะการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศและจับจังหวะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์ช่องทางการจัดจำหน่ายในสถานีน้ำมัน ปตท. ภายใต้แบรนด์ “mcmc” ให้กลายเป็น “mcmc Outlet Store” โดยมีแผนที่จะขยายรูปแบบร้านค้าดังกล่าวไปยังแหล่งชุมชนหรือพื้นที่ที่มีศักยภาพซึ่งมีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ง่าย และมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าที่เป็นคนท้องถิ่นให้มากขึ้น

บริษัทฯพร้อมเดินหน้าเปิดสาขาอีกครั้งในปลายปี 2561และในส่วนร้านค้าของไทม์เดคโคนั้น ได้มีงานเปิดตัวร้านนาฬิกาคอนเซ็ปต์ใหม่ไปเมื่อก่อนหน้านี้ของแบรนด์ Scuderia Ferrari, Lacoste, Victorinox, Emporio Armani และ Michael Kors ที่ดึงเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์มานำเสนอลูกค้าให้ตรงจุด โดยกิจกรรมต่างๆ ได้รับความร่วมมือที่ดีจาก Online Influencers และ Celebrity และล่าสุดบริษัทฯได้ลงนามในความร่วมมือกับ Warrix เพื่อเตรียมเปิดตัวสินค้า Activewear แบรนด์ U-P อย่างเป็นทางการในปลายปีนี้ ด้วยคอลเลคชั่น U-P Warrix ภายหลังจากที่มีการเลื่อนเปิดตัวแบรนด์ U-P อย่างเป็นทางการจากปลายปีก่อนหน้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ของสินค้าที่สามารถสวมใส่ได้ทั้งลุค Sport, Casual และทำงาน ด้วยการออกแบบดีไซน์และฟังก์ชั่นที่เหมาะกับการใช้งานในหลายๆกิจกรรม ซึ่งเน้นความสนุกและให้พลังอย่างมีสไตล์ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ใช้ชีวิตหลากหลายรูปแบบในปัจจุบัน”

นายบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2561 รวมเป็นเงินจำนวน 320 ล้านบาท และเพื่อตอกย้ำความมั่นใจในการเติบโตตามแผนงานและบริหารสภาพคล่องส่วนเกิน คณะกรรมการบริษัทฯได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ เปลี่ยนรอบบัญชีจากเดิม วันที่ 1 ม.ค.- 31 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันที่ 1 ก.ค.- 30 มิ.ย.ของปีถัดไป เริ่มตั้งแต่งวดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2561 โดยบริษัทฯ มียอดขายในไตรมาส 2 รวม 861 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 118 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 13.5% โต 31.0% หรือ 28 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนซึ่งอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 9.7% ส่งผลให้ยอดขายปี 2561 (งวด 6 เดือน) มียอดรวม 1,974 ล้านบาท กำไรสุทธิสำหรับปีรวม 350 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 17.4% ขยายตัว 8.8% หรือ 28 ล้านบาทจากงวดเดียวกันในปีก่อนหน้าที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 14.9%