บจ.โกยกำไรดำเนินงาน 1.2 ล้านล้าน พุ่ง 84% 9 เดือน ประกันฯขาดทุน1.6 หมื่นลบ.

HoonSmart.com>>บจ. ใน SETผลงานโดดเด่น 9 เดือนปี64 ยอดขายรวม 9.27 ล้านล้านบาท โต 14% กำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) ทะลุ 1 ล้านล้านบาท กระฉูด 84% จากปีก่อน กำไรสุทธิ 741,769 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.28% กลุ่มพลังงานแชมป์แซงกลุ่มแบงก์ กลุ่มปิโตรฯ-เหล็ก-ขนส่งทะยาน ได้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์-รายการพิเศษช่วย ส่วนกลุ่มประกันฯขาดทุนยับเยิน 16,368 ล้านบาท ดิ่งลง 62.06 % แต่พลิกมีกำไร 2,419 ล้านบาท เฉพาะไตรมาส 3 บจ.มีกำไรดำเนินงาน 383,576 ล้านบาท ลดลง 8.3% กำไรสุทธิ 203,809 ล้านบาท ลดลง 23.7% เทียบไตรมาส 2 

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บจ.ในตลาดหลักทรัพย์(SET) จำนวน 744 บริษัท นำส่งผลงานงวด 9 เดือนของปี 2564 มีกำไรสุทธิ 563 บริษัท โดยมียอดขายรวม 9,266,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% กำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) 1,198,198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.3% กำไรสุทธิ 741,769 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

บจ. มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานและอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 12.93% และ 8.0% ตามลำดับ สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอยู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 สาเหตุที่ดีขึ้นเนื่องจาก บจ. ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากครึ่งแรกของปี 2563 ที่ได้รับผลกระทบการระบาดของโควิด-19 รอบแรก อีกทั้งราคาน้ำมันและค่าการกลั่นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2564

ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานที่สูงขึ้นมากกว่า 1 ล้านล้านบาท มาจากกลุ่มพลังงานมากที่สุดถึง 485,154 ล้านบาท แซงกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ทำได้ 269,327 ล้านบาท รวมถึงกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่มีกำไรถึง 83,427 ล้านบาท ทะยานขึ้นมากกว่า 10,340% และกลุ่มเหล็กกำไร 18,920 ล้านบาท ได้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงลิ่ว

นอกจากนี้กลุ่มขนส่งแม้เผชิญวิกฤตการณ์โควิดและล็อกดาวน์ กลับยังมีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 1,619 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 8,860 ล้านบาท ดีขึ้นจากปีก่อนมาก เพราะบริษัทการบินไทย (THAI) มีกำไรสุทธิ 51,121 บาท มาจากรายการพิเศษ การปรับโครงสร้างหนี้และขายทรัพย์สิน

สำหรับกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต ที่ออกกรมธรรม์โควิด ” เจอ จ่าย จบ “ขาดทุนจากการดำเนินงานหนักถึง -16,368 ล้านบาท ดิ่ง 62.06% เทียบกับขาดทุน 10,100 ล้านบาทในปีก่อน  แต่กลับพลิกมีกำไรสุทธิ  2,419 ล้านบาท ลดลง 59.37 % เทียบกับกำไรสุทธิ 5,654 ล้านบาทช่วงเดียวกันปีก่อน

ด้านฐานะการเงินของกิจการ ณ สิ้นเดือนก.ย. 2564 บจ. ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ระดับคงที่ที่ 1.50 เท่า

นายแมนพงศ์กล่าวถึง ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 เทียบกับไตรมาส 2 ปี 2564 บจ. มียอดขายรวม 3,184,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.04% แต่มีกำไรจากการดำเนินงาน 383,576 ล้านบาท ลดลง 8.3% และมีกำไรสุทธิ 203,809 ล้านบาท ลดลง 23.7% เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 19 สูงที่ขึ้นและมาตรการควบคุมเข้มงวดของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม หมวดธุรกิจที่ยังคงเติบโตได้ดี คือ หมวดธุรกิจการแพทย์ เนื่องจากความต้องการด้านการรักษาพยาบาลมีสูงมากขึ้น

ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ไตรมาส 3 ปี 2564 มียอดขายรวม 42,483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.0% กำไรจากการดำเนินงาน 2,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% และกำไรสุทธิรวม 2,804 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.9%