ดาวโจนส์ปิดลบ 9 จุด ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงต่ำสุดตั้งแต่ปี 1969

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ลบ 9 จุด นักลงทุนสลับกลุ่มลงทุนหลังบอนด์ยีลด์อ่อนตัวลง ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง ข้อมูลยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงต่ำสุดตั้งแต่ปี 1969 ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ราคาน้ำมันดิบลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ปิดที่ 35,804.38 จุด ลดลง 9.42 จุด หรือ 0.03% จากการสลับกลุ่มลงทุนหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัวลงท่ามกลางสัญญานการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และจากข้อมูลเศรษฐกิจ รวมทั้งผลประกอบการที่ไม่สดใสของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,701.46 จุด เพิ่มขึ้น 10.76 จุด, +0.23%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,845.23 จุด เพิ่มขึ้น 70.09 จุด, +0.44%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอ่อนตัวลงมาที่ใกล้ 1.7% จากที่เพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ทำให้มีแรงซื้อกลับมาในกลุ่มเทคโนโลยี

นักลงทุนขานรับข้อมูลการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 71,000 ราย สู่ระดับ 199,000 ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 1969 และต่ำกว่าคาดอย่างมาก สะท้อนถึงตลาดแรงงานที่ตึงตัว

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 จากการประมาณการครั้งที่สองขยายตัว 2.1% สูงกว่า 2.0% ประมาณการครั้งแรก

ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 5.0% จากระยะเดียวกันของปีก่อน เป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 สะท้อนถึงแรงกดดันด้านราคาที่ต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนี PCE พื้นฐานซึ่งเฟดใช้เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.5%

นักวิเคราะห์จาก U.S. Bank Wealth Management ระบุว่า นักลงทุนสลับกลุ่มลงทุน หลังจากมีการเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลล์เป็นประธานธนาคารกลาง(เฟด)อีกครั้ง ตลาดคิดว่า เป็นเรื่องการเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ไม่กังวลต่อการระบาดของวิดที่จำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามรายงานการประชุมประจำเดือนพฤศจิกายนของเฟดที่เผยแพร่เมื่อคืนนี้ก็มีผลต่อตลาดจากคาดการณ์ว่า เฟด อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะในรายงานระบุว่า เฟดมีความพร้อมที่จะเร่งเวลาในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรและขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

นอกจากนี้นักลงทุนยังผิดหวังผลการดำเนินงานไตรมาสสามของบริษัททค้าปลีก ทั้งนอร์ดสตรอม และแก๊ป อิงค์ ที่ต่ำกว่าคาด หุ้นนอร์ดสตรอมลดลง 29% และหุ้นแก๊ป อิงค์ 24%

ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีนี้เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และจะเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์

.
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นำโดยกลุ่มเทเลคอมที่เพิ่มขึ้น 1.2% นักลงทุนขานรับ

การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ขณะที่ยังเกาะติดการระบาดระลอกใหม่ของโควิดในยุโรป ซึ่งหลายประเทศกำลังพิจารณาที่จะใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาด

เยอรมนีจะตัดสินใจในวันนี้ว่าจะล็อกดาวน์หรือไม่

ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจของเยอรมนี (Ifo Business Climate Index)เดือนพฤศจิกายนลดลงมาที่ 96.5 จาก 97.7 ในเดือนตุลาคม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 479.69 จุด เพิ่มขึ้น 0.44 จุด, +0.09%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,286.32 จุด เพิ่มขึ้น 19.63 จุด, +0.27%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ที่ 7,042.23 จุด ลดลง 2.39 จุด, -0.03%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,878.39 จุด ลดลง 58.61 จุด, -0.37%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 78.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 82.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล