HoonSmart.com>>”สามารถคอร์ปอเรชั่น-บริษัทในเครือ” มั่นใจปี 65 เติบโต แจงผลงานปีนี้ เด่นด้านสื่อสารโทรคมนาคม ได้โครงการใหม่ 8,000 ล้านบาท กอดงานในมือราว 10,000 ล้านบาท “สามารถดิจิตอล” ฟื้นตัว เปิดบริการธุรกิจ Digital Trunked Radio ร่วมกับ โทรคมนาคมแห่งชาติ ล่าสุด กฟภ.-มหาดไทยเซ็นสัญญาแล้ว พิมพ์รหัสควบคุมบรรจุภัณฑ์ Direct Coding ภายใต้กรมสรรพสามิต ให้บริการไตรมาส1/65 สร้างรายได้ยาว 7 ปี
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและธุรกิจใหม่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMART) เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ในปี 2564 ยังคงส่งผลกระทบต่อผลประกอบการรวมของบริษัท โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งระบบและการก่อสร้างที่ล่าช้า
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทสามารถฯมีความคืบหน้าทางธุรกิจในหลายด้าน อาทิ กลุ่มสามารถเทลคอม สามารถต่อยอดธุรกิจและขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ชนะประมูลโครงการใหม่ๆ ครอบคลุมบริการเทคโนโลยีหลากหลาย เช่น ระบบบูรณาการแอปพลิเคชันเพื่อการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ Digital Utility, ระบบวิเคราะห์หม้อแปลงไฟฟ้าแบบเรียลไทม์, ระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยมลพิษ, ระบบบันทึกและตรวจสอบลายเซ็นอิเล็คทรอนิกส์,ระบบเฝ้าระวังและรับมือภัยไซเบอร์ และอื่นๆ คาดว่าจะมีมูลค่างานในมือสะสม (Backlog) ในสิ้นปี 2564 ถึง 10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งพัฒนา Digital ICT Solutions ร่วมกับพันธมิตรระดับโลกอย่างจริงจัง เพื่อนำเสนอโซลูชั่นส์ที่ตอบโจทย์ Digital Transformation ให้แก่ภาครัฐและเอกชน อาทิ ระบบเครือข่ายการสื่อสารดิจิทัล, บริการ Cyber Security, Banking & Payment Solutions และอื่นๆ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญของกลุ่มสามารถเทลคอมที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต
ส่วนบริษัทสามารถดิจิตอล (SDC) เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากความคืบหน้าของธุรกิจ Digital Trunked Radio ซึ่งบริษัทร่วมกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ในการให้บริการ ล่าสุดได้บรรลุสัญญากับ 2 องค์กรใหญ่ในการใช้บริการ คือ กระทรวงมหาดไทยและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่ามีโอกาสในการขยายฐานผู้ใช้บริการได้อีกจำนวนมากจากหน่วยงานราชการที่ต้องประสานงานในการดูแลและให้บริการประชาชนแบบบูรณาการ โดยบริษัทจะรับรู้รายได้ส่วนแบ่งรายได้จากค่าบริการ ( Airtime) และรายได้เสริมจากการจำหน่ายและการให้เช่าเครื่องลูกข่ายซึ่งจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ใช้บริการ ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อสร้างพอร์ตธุรกิจที่สมดุล บริษัทจึงให้ความสำคัญกับธุรกิจ Digital Content & Application เช่นกัน โดยเตรียมเปิดตัว 2 mobile application ใหม่ในต้นเดือนธ.ค.นี้
สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบินและการเดินทาง ภายใต้บริษัท สามารถแอร์ทราฟฟิค คอนโทรล ซึ่งให้บริการศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชาก็มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น นับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านม าซึ่งกัมพูชามีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว ประกอบกับการเข้าสู่ช่วง High Season ของการเดินทางท่องเที่ยว คาดว่าจำนวนเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านธุรกิจ Utility ภายใต้ บริษัทเทด้า ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยปีนี้ คาดว่าจะมี backlog สะสมไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ โครงการ พิมพ์รหัสควบคุมบรรจุภัณฑ์ Direct Coding ภายใต้การกำกับดูแลของกรมสรรพสามิต ก็มีการติดตั้งระบบใกล้แล้วเสร็จ โดยจะเปิดบริการในไตรมาสแรกปี 2565 ซึ่งจะส่งผลในการรับรู้รายได้ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง 7 ปี รวมมูลค่าราว 8,000 ล้านบาท
“ปีนี้เป็นปีแห่งการประคับประคองบริษัทและการเตรียมความพร้อมหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ซึ่งในภาพรวมสายธุรกิจด้านไอซีทีก็มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สายธุรกิจ Digital Network & Content ภายใต้บริษัทสามารถดิจิตอลก็เห็นโอกาสในการฟื้นตัวชัดเจน หากสถานการณ์โควิดดีขึ้นในปี 2565 ผมมั่นใจว่าผลประกอบการโดยรวมของบริษัทจะฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างแน่นอน” นายวัฒน์ชัยกล่าว