“วิรไท” ห่วงเงินทุนต่างชาติไหลเข้า “บอนด์ระยะสั้น” พร้อมเปิดทางแบงก์กำหนดอัตราเรียกค่าธรรมเนียม โอนเงิน “พร้อมเพย์” ส่วนที่ขยายเป็นไม่เกิน 7 แสนบาท
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้ ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งในช่วงที่ผ่านจะเห็นได้ว่ามีเงินไหลเข้ามาในประเทศตลาดเกิดใหม่และไทย เนื่องจากความกังวลบางเรื่องของนักลงทุนลดลง โดยเฉพาะประเทศไทยจะพบว่าในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในบอนด์ระยะสั้นมากขึ้น ทำให้ธปท.ไม่ค่อยสบายใจ ต่างจากบางประเทศที่ีปัญหาเรื่องความมั่นคงทางด้านต่างประเทศเข้ามา จึงไม่จูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในบอนด์ระยะสั้น
“ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา เราเห็นเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในบอนด์ระยะสั้นมากขึ้น ซึ่งเราก็ติดตามดูใกล้ชิด และด้วยฐานะด้านต่างประเทศของเราที่เริ่มแข็งแรงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ทำให้เงินทุนที่เข้ามาเป็นลักษณะเอาเงินมาพักไว้ที่เรา ซึ่งเราก็ไม่ค่อยสบายใจ”นายวิรไทกล่าว
ส่วนการปรับลดเพดานวงเงินลงทุนบอนด์ระยะสั้นของเงินทุนต่างประเทศนั้น นายวิรไท กล่าวว่า ยังไม่ใช่ตอนนี้ แค่ต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด โดยเฉพาะปัจจัยที่เกิดกับตลาดเงินและตลาดทุนในต่างประเทศ เพราะสถานะการเงินโลกมีความผันผวนสูง
นายวิรไท กล่าวถึงการขยายวงเงินการโอนเงินบนพร้อมเพย์เป็นไม่เกิน 7 แสนบาท ว่า เพื่อเป็นการตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มธุรกิจมากขึ้น ส่วนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการในส่วนของวงเงินที่ขยายออกไปนั้น จะขึ้นอยู่กับแต่ละแบงก์ว่าจะลดหรือเพิ่มค่าธรรมเนียม จากปัจจุบันที่วงเงินโอนตั้งแต่ 1-2 แสนขึ้นแบงก์จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ไม่เกิน 10 บาทต่อครั้ง