ดาวโจนส์บวก 17 จุด “ไบเดน” เสนอชื่อพาวเวลล์นั่งประธานเฟดต่อ

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์บวก 17 จุด หลังประธานาธิบดีไบเดนเสนอชื่อ “พาวเวลล์” นั่งประธานเฟดต่อ หุ้นกลุ่มธนาคารและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ปิดที่ 35,619.25 จุด เพิ่มขึ้น 17.27 จุด หรือ 0.05% หลังจากประธานาธิบดโจ ไบเดนประกาศว่าจะเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลาง (เฟด) ให้ทำหน้าที่ต่ออีกวาระหนึ่ง แทนที่จะเป็นนางลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการ

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,682.94 จุด ลดลง 15.02 จุด, -0.32%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,854.76 จุด ลดลง 202.68 จุด, -1.26%

กลุ่มธนาคารและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการประกาศของประธานาธิบดีไบเดน หุ้นเจพีมอร์แกนเพิ่มขึ้น 2.1% หุ้นมอร์แกน สแตนเลย์ เพิ่มขึ้นเกือบ 2.5% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 2.26% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 1.96% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 3.15%ขณะเดียวกันกลุ่มเทคโนโลยีลดลง จากความวิตกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นจะกระทบต่อผลการดำเนินงาน

หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 1.76% หุ้นแอมะซอน ลดลง 2.83% หุ้นเมตา ลดลง 1.24% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.96%

นักวิเคราะห์จาก Waddell and Associates กล่าวว่า ปัจจัยที่ผลต่อตลาดได้แก่ ปัจจัยทางเทคนิค การสลับกลุ่มลงทุน ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเล็กน้อย แม้บอกไม่ได้ว่าการเสนอชื่อนายพาวเวลล์มีผลแค่ไหน แต่คิดว่าโดยรวมแล้วชื่อของนายพาวเวลล์เป็นปัจจัยบวก

การเสนอชื่อนายพาวเวลล์ทำให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวประธานเฟด ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัวจากการระบาดและเจอกับระดับเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบสามทศวรรษ

นักวิเคราะจาก Oxford Economics กล่าวว่า ความต่อเนื่องคือปัจจัยหลักในช่วงเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวและเงินเฟ้อสูงขึ้น ความต้องการแข็งแกร่ง และเงินทุนกับแรงงานกำลังค่อยฟื้นตัว

นายพาวเวลล์เป็นสายพรรครีพับลิกัน ได้รับการเสนอชื่อครั้งแรกให้เป็นหนึ่งในคณะผู้ว่าการในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อสิบปีที่แล้ว และขึ้นมาเป็นประธานเฟดในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

หุ้นโมเดอร์นา เพิ่มขึ้น 7.17% หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) อนุมัติให้ใช้วัคซีนของบริษัทเป็นเข็มกระตุ้นให้กับผู้ใหญ่ชาวอเมริกันทุกคน

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงาน ยอดขายบ้านมือสองเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 0.8% มาที่ระดับ 6.34 ล้านยูนิต จากเดือนก่อน

การระบาดระลอกใหม่ของโควิดทั่วโลกก็มีผลต่อตลาด ทำให้มีการล็อกดาวน์ในหลายประเทศซึ่งจะส่งผลให้การสัญจรของผู้บริโภคลดลง และอาจจะเป็นแรงกดดันต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งในและต่าง ประเทศรอบใหม่ แม้การติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯลดลงต่อเนื่องและคาดว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์ในสหรัฐฯ

ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีนี้เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และจะเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่ลดลง 1.3% แม้กลุ่มเท

เลคอมเพิ่มขึ้น 1.8% นักลงทุนขานรับการเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลล์เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯอีกวาระหนึ่ง แต่ยังกังวลเกี่ยวกับการระบาดระลอกใหม่ของโควิดที่หลายประเทศต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 485.46 จุด ลดลง 0.62 จุด, -0.13%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,255.46 จุด เพิ่มขึ้น 31.89 จุด, +0.44%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,105.00 จุด ลดลง 7.29 จุด, -0.10%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,115.69 จุด ลดลง 44.28 จุด, -0.27%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 76.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือน เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 79.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล