HoonSmart.com>>หุ้นอุบล ไบโอ ฯ ติดเบอร์โบ ราคาพุ่งทำนิวไฮ 2.40 บาท แตะราคาไอพีโอ ครั้งแรก หลังประกาศงบหรูไตรมาส 3 กำไรเฉียด 100 ล้านบาท
ราคาหุ้นบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล ( UBE ) ผู้ผลิตแปรรูปมันสำปะหลังครบวงจร รายใหญ่ของอีสานใต้ ปรับตัวขึ้นแรง ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายหนาแน่น โดยมีแรงซื้อเข้ามาตลอดทั้งวัน ดันราคาขึ้นไปสูงสุด 2.40 บาท ถือเป็นราคานิวไฮครั้งแรก ตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ( 30 ก.ย.64) และเป็นราคาที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปครั้งแรกหรือ ไอพีโอ 2.40 บาท
ราคาหุ้น UBE ปิดที่ 2.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท หรือ 12.26% มูลค่าซื้อขาย 1,451.20 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เก็ตติ้ง) กล่าวว่า หุ้น UBE ปรับตัวลงต่อเนื่องและต่ำกว่าราคาไอพีโอ ตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เทขายหุ้นออกมาวันแรก ส่งผลให้นักลงทุนไม่มั่นใจการลงทุน แต่หลังจากผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาดี มีกำไร 97 ล้านบาท ดีขึ้นอย่างมาก เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งกำไรเพียง 3.75 ล้านบาท ทำให้นักลงทุนมั่นใจ กลับเข้ามาเก็งกำไรอีกครั้ง และคาดว่าราคาหุ้นน่าจะกลับขึ้นไปยืนเหนือราคาไอพีโอ 2.40 บาท ได้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังดำเนินต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อ UBE ซึ่งเป็นผู้ผลิตเอทานอล เพื่อใช้ในอุตสาหกรรม นำไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์สีฟ้า ฆ่าเชื้อโรค และการผลิตแป้งมันสำปะหลัง เพื่อการส่งออก ยังมียอดขายเติบโต คาดว่าผลดำเนินงานไตรมาส 4 ดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า
นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ UBE กล่าวในงาน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ภายใต้กรอบ 4 ข้อ เพื่อพัฒนาและถ่ายทอดผลงานวิจัยองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมลงสู่ภาคอุตสาหกรรม และภาคการเกษตรเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน BCG Model พร้อมต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับ UBE ในอนาคต
บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ต้นทุนการผลิต คุณภาพผลิตภัณฑ์ ตลอดจนคิดค้นแนวทาง เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ UBE เติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากการทำ MOU ในครั้งนี้ จะเป็นรูปแบบผลิตภัณฑ์ด้านปัจจัยการผลิตพืช ที่มาจากความร่วมมือ ได้แก่ ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ และสารชีวภัณฑ์ควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืช
อาทิ ปุ๋ยชีวภาพ PGPR, ชีวภัณฑ์บิวเวอร์เรีย, ชีวภัณฑ์ไตรโคเดอร์มา โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการคัดเลือกเชื้อที่เหมาะสม ผ่านขั้นตอนการผลิตที่มีการควบคุมคุณภาพ และอยู่ในรูปแบบที่ง่ายต่อการใช้งาน เช่น ชนิดผงสปอร์ ชนิดน้ำ เป็นต้น
นอกจากนี้ คาดว่าจะมีความร่วมมือด้านการพัฒนาการวิจัยอุตสาหกรรมชีวภาพต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน BCG Model ในอนาคต เช่น เคมีภัณฑ์ชีวภาพ, ไบโอพลาสติก, อาหาร, เครื่องสำอาง และยา เป็นต้น โดยมุ่งหวังที่จะต่อยอดให้เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้เสริมให้กับบริษัทฯ ในอนาคตอีกด้วย