ดาวโจนส์ปิดบวก 54 จุด ยอดค้าปลีกแกร่งกว่าคาด

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 54 จุด ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.แข็งแกร่งกว่าคาด ด้านผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสูงกว่าที่คาด ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 12 เซนต์ เบรนท์ปรับขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ปิดที่ 36,142.22 จุด เพิ่มขึ้น 54.77 จุด หรือ 0.15% จากยอดค้าปลีกเดือนตุลาคมแข็งแกร่งกว่าที่คาด และจากผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสูงกว่าที่คาด โดยเฉพาะโฮมดีโปท์ และวอล์มาร์ท ซึ่ส่งสัญญาณว่าผู้บริโภคเร่งการใช้จ่ายแม้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,700.90 จุด เพิ่มขึ้น 18.10 จุด, +0.39%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,973.86 จุด เพิ่มขึ้น 120.01 จุด, +0.76%

กระทรวงพาณิชย์รายงาน ยอดค้าปลีกเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 1.7% จากเดือนกันยายน สูงกว่า 1.4% ที่นักวิเคราะห์คาด จากยอดขายที่เพิ่มในหลายกลุ่มตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงกลุ่มกีฬา ยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้น 10.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน แม้เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 6.2% สูงสุดในรอบกว่า 30 ปี

นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo Investment Institute คาดว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นปานกลางในปี 2022 หลังจากเพิ่มสูงขึ้นในครึ่งแรกของปี

ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของบริษัทค้าปลีก

หุ้นโฮม ดีโปท์ เพิ่มขึ้น 5.7% จากกำไรไตรมาสสามสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดและยอดขายสุทธิเพิ่มขึ้น 9.8% และแจ้งว่ายอดขายไตรมาสสี่ดีกว่าไตรมาสสาม เป็นแนวโน้มว่าจะปิดสิ้นปีอย่างแข็งแกร่ง

หุ้นวอลมาร์ทลดลง 2.5% แม้กำไรและรายได้ดีเกินคาด รวมทั้งยอดขายสาขาเพิ่มขึ้น 9.2% อย่างไรก็ตามผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของโฮม ดีโปท์ และวอลมาร์ทช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นทาร์เก็ต เพิ่มขึ้น 1.12% หุ้นเมซีส์ อิงค์ เพิ่มขึ้น 3.99%

นักวิเคราะห์จาก E-Trade กล่าวว่า ยอดค้าปลีกที่ดีกว่าคาดและผลการดำเนินงานของกลุ่มค้าปลีกที่แข็งแกร่ง ชี้ชัดว่าเงินเฟ้อไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผู้บริโภค แม้ตลาดแรงงานชะงักบ้างและยังมีเงินเฟ้อ อาจจะเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ต้องการสัญญานการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องของเศรษฐกิจ

โกลด์แมนแซคส์ คาดว่า ผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดจะยังต่อเนื่องไปจนถึงปี 2022 เป็นอย่างน้อย และส่งผลให้ดัชนี S&P 500 แตะระดับ 5,100 ในสิ้นปี 2022 หรือเพิ่มขึ้นได้อีก 9% จากปัจจุบัน

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงาน การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเดือนตุลาคมฟื้นตัว 1.6% จากที่ลดลง 1.3% ในเดือนกันยายน

สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 3 จุด มาที่ระดับ 83

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มน้ำมันและถ่านหินที่เพิ่มขึ้น 1.1% จากข้อมูล

เศรษฐกิจ และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน แม้สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศระอุจากรายงานว่ารัสเซียเสริมกำลังทางทหารบริเวณชายแดนยูเครน และจากวิกฤติผู้อพยพในชายแดนโปแลนด์ ลัตเวียและลิธัวเนีย

GDP ไตรมาสสามยูโรโซนเพิ่มขึ้น 2.2% ตามคาดจากไตรมาสก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 3.7% จากระยะเดียวกันของปีก่อน

ในอังกฤษ การจ้างงานเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง

หุ้น Vodafone เพิ่มขึ้น 4.8% หลังรายงานผลการดำเนินงาน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 489.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.84 จุด, +0.17%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,326.97 จุด ลดลง 24.89 จุด, -0.34%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,152.60 จุด เพิ่มขึ้น 23.97 จุด, +0.34%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,247.86 จุด เพิ่มขึ้น 99.22 จุด, +0.61%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 80.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ ปิดที่ 82.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล