FPI สุดยอด! 9 เดือนกำไรพุ่ง 2,426.20% ทำสถิติสูงสุด

HoonSmart.com>>FPI ไม่ทำให้ผิดหวัง! ผลงาน 9 เดือน พลิกโชว์กำไรสุทธิ 188.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,426.20% จากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 8.097 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุด อานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้น ล็อคราคาค่าขนส่งล่วงหน้าได้ในราคาต่ำถึงสิ้นปีนี้ ผู้บริหารมั่นใจปี 64 กวาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.1 พันล้านบาท

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/64 มีรายได้รวม 537.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.5 ล้านบาท หรือ 15.1% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 528.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.8 ล้านบาท หรือ 23.0% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน

สาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทฯเซ็นสัญญาค่าขนส่งของทวีปอเมริกาใต้ล่วงหน้าได้ในราคา 5,600 ดอลลาร์สหรัฐ/ตู้ จนถึงสิ้นปี 2564 (ปัจจุบันราคา 14,000 ดอลลาร์) ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้ามากขึ้น (จาก 50.5 ล้านบาท เป็น 76.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.9 ล้านบาท)

นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ทำให้ยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้น ใน 4 โซนหลัก คือ เอเชียและตะวันออกกลาง, ออสเตรเลีย, แอฟริกา และยุโรป เป็นจำนวน 7.3 ล้านบาท , 5.7 ล้านบาท , 5.7 ล้านบาท และ 3.0 ล้านบาท ตามลำดับ

ไตรมาส 3/64 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 69.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.6 ล้านบาท หรือ 140.5% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 29.0 ล้านบาท จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทฯ มีการบริหารจัดการที่ดีทั้งการขึ้นราคาสินค้า,ประสิทธิภาพฝ่ายผลิต

ขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิ 188.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196.28 ล้านบาท หรือ 2,426.20% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 8.09 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรทั้งปีของปี 2561 , 2562 และ 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 125.55 ล้านบาท 186.79 และ 18.75 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่รายได้ในงวด 9 เดือนแรก ของปี 2564 อยู่ที่ 1,552.6 ล้านบาท

“ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปีนี้ เติบโตก้าวกระโดด สูงกว่าตัวเลขกำไรสุทธิทั้งปีของปี 2561-2563 ตอกย้ำถึงการเทิร์นอะราวด์ของ FPI ที่มุ่งขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น”

แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง หลังอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกลับมาฟื้นตัว ทำให้ยอดส่งออกไปยังต่างประเทศ ที่คิดเป็นสัดส่วน 80% ของรายได้รวม เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งบริษัทฯได้ทำสัญญาการขนส่งล่วงหน้ากับบริษัทขนส่งทางเรือ รวมทั้งบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ยอดขายใน 4 โซนหลัก คือ เอเชียและตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ แอฟริกา และยุโรป กลับมาเติบโตโดดเด่น ทำให้มั่นใจว่ารายได้รวมจะแตะ 2,100 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้