HoonSmart.com>>‘SMD’ ปลื้ม ผลประกอบการนิวไฮ งบ 9 เดือนแรกของปี 64 กำไรสุทธิ 264.82 ล้านบาททะยาน 564.99%
ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด (SMD) บริษัทฯ จำหน่ายเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางด้านระบบการหายใจและช่วยชีวิต เปิดเผยว่า ผลดำเนินงาน Q3/64 กำไรสุทธิ 190.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,634.67% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 11.00 ล้านบาท
Q3/64 มีรายได้จากการขายและบริการ 699.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 390.93% เมื่อเทียบกับ Q3/63 ที่มีรายได้ 142.51 ล้านบาท
ผลักดันผลดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรก/ 2564 มีรายได้จากการขายและบริการ 1,184.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 432.35 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 264.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 564.99% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 39.82 ล้านบาท ถือว่าเป็นผลการดำเนินงานที่เติบโตและทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New high) นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ
ปัจจัยการเติบโตหลัก มาจากการทยอยรับรู้งานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ล่าสุด ส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง มูลค่ารวม 131.30 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อย แบ่งเป็น การส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้มูลนิธิโรงพยาบาลเครือบางปะกอก และโรงพยาบาลในเครือปิยะเวท มูลค่า 86.90 ล้านบาท และส่งมอบครุภัณฑ์การแพทย์แก่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 มูลค่า 44.40 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมียอดคำสั่งซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิ เครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ หรือ AED, ผลิตภัณฑ์ Rapid Test Kit หรือ ATK ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้อง ICU, Semi ICU และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ SMD เป็นตัวแทนจำหน่าย โดยมียอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากทั้งภาครัฐ เอกชน และนิติบุคคล รวมถึงมีรายได้เสริมจากธุรกิจเครื่องมือแพทย์ให้เช่า
“จากผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 64 ถือเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ รายได้และกำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่ ถือเป็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบริษัทฯ ได้รับปัจจัยหนุนมาจากการความต้องการสินค้าเครื่องมือแพทย์เพิ่มมากขึ้น ตามความจำเป็นต่อการรักษา และใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดจากสถานการณ์โควิด-19 จากกลุ่มภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงกลุ่มนิติบุคคลต่างๆ” ดร.วิโรจน์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMD กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นกว่า 300 ล้านบาท คาดว่ารับรู้ในปีนี้กว่า 95% ของมูลค่างานทั้งหมด โดยมองว่า ความต้องการเครื่องมือแพทย์ ยังคงมีสูงตามการเบิกจ่ายของงบประมาณภาครัฐฯ ที่ให้ความสำคัญทางด้านการแพทย์ สะท้อนจากงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ที่ยังให้ความสำคัญกับครุภัณฑ์การแพทย์ ที่เกี่ยวข้องการการช่วยชีวิตในภาวะวิกฤติ