CKP นิวไฮ Q3 กำไรแตะ 1,235 ล้านบาท โต 48.6%

HoonSmart.com>>“ซีเค พาวเวอร์” แข็งแกร่ง ไตรมาส 3 กำไรนิวไฮ 1,235 ล้านบาท โต 48.6% จากการขายไฟโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 เพิ่มขึ้น 31.8% ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี โต 49.8% วางเป้าคงสัดส่วนลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 85% ของกำลังการผลิต มุ่งสู่สังคมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ (CKP) กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนที่ผ่านมา เป็นที่น่าพอใจ โดยในไตรมาสที่ 3/2564 มีรายได้รวม 2,508.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 377.9 ล้านบาท หรือ 17.7% และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯสูงถึง 1,234.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 403.6 ล้านบาท หรือ 48.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทฯ

มาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 (NN2) จำนวน 998.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และที่สำคัญบริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 49.8% โดยส่วนใหญ่มาจากการลงทุนในบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ (XPCL) โดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าเฉลี่ยมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้มีรายได้ 4,799 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงจากการทยอยชำระคืนเงินต้นและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ XPCL มีกำไรสุทธิสูงถึง 2,366 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน XPCL เป็น 42.5% ตั้งแต่สิ้นไตรมาสที่ 2/2564 ทำให้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก XPCL มากขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2564 มีรายได้รวม 6,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,180.8 ล้านบาท หรือ 20.6% และมีกำไรสุทธิ 2,056.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,659.6 ล้านบาท หรือ 418.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทฯ เช่นกัน มาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าของ NN2 เพิ่มขึ้น 77.8% และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 479.1% ส่วนใหญ่มาจากการลงทุนใน XPCL

“ปัจจุบัน CKPower มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ในสัดส่วน 89% ของกำลังการผลิตติดตั้งรวม จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำและโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะคงสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้ไม่น้อยกว่า 85% ของกำลังการผลิตติดตั้งรวม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยที่จะมุ่งสู่สังคมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2608” นายธนวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ จากการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจ ทำให้ CKPower ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำคะแนนประเมิน CG score ในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent) เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ตามโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2564 ที่จัดทำขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ผ่านการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงแนวทางที่บริษัทฯ มุ่งเน้นมาโดยตลอดคือ การให้ความสำคัญในประเด็นด้านความยั่งยืน ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG)