HoonSmart.com>> “พีทีที โกลบอล เคมิคอล” เปิดกำไรไตรมาส 3/64 พุ่งแตะ 7,005 ล้านบาท จากงวดปีก่อนอยู่ที่ 908 ล้านบาท กวาดรายได้ 1.11 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% รับราคาขายผลิตภัณฑ์สูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบพุ่งหลังทั่วโลกคลายล็อกดาวน์ หนุน 9 เดือนพลิกโชว์กำไร 4.1 หมื่นล้านบาท จากงวดปีก่อนขาดทุน โบรกฯ ชี้กำไรตามคาด แนะ “ซื้อ”
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2564 กำไรสุทธิ 7,005.21 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.56 บาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 908.38 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.20 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 41,734.81 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.30 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 6,204.99 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 1.38 บาท
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมในไตรมาส 3/2564 จำนวน 112,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2/2564 และเพิ่มขึ้น 47% จากไตรมาส 3/2563 โดยมีแนวโน้มการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาขายของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เนื่องจากอุปสงค์ที่ยังคงดีอย่างต่อเนื่องและอุปทานที่ตึงตัวจากการหยุดซ่อมบำรุงและการลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตบางรายในภูมิภาค เช่นเดียวกับทิศทางราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามราคาน้ำมันดิบและอุปสงค์ที่ฟื้นตัวภายหลังจากที่หลายประเทศทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19
นอกจากนี้ในด้านปริมาณขายในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีปริมาณขายในภาพรวมเพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจากการขยายกำลังการผลิต รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตเดิมระหว่างไตรมาส แม้จะมีปริมาณขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมลดลง เนื่องจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนในไตรมาสนี้ก็ตาม
ทั้งนี้ทิศทางการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ส่งผลให้บริษัทฯ มีต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นตาม โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ (ไม่รวมผลกำไรจากสต๊อกน้ำมันและการกลับรายการขาดทุนจากรายการมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ ผลขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยน ผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง) อยู่ที่ 8,657 ล้านบาท ลดลง 17% จากไตรมาส 2/2564 แต่เพิ่มขึ้นมากกว่า 200% จากไตรมาส 3/2563 และมี Adjusted EBITDA ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 14,080 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 8% จากไตรมาส 2/2564 แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 125% จากไตรมาส 3/2563
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณารวมถึงผลจากการที่บริษัทฯ รับรู้ผลกำไรจากสต๊อกน้ำมันและการกลับรายการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Stock Gain Net Reversal of NRV) เป็นกำไรรวม 1,171 ล้านบาท ผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง 1,676 ล้านบาท และผลขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,147 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 7,005 ล้านบาท (1.56 บาท/หุ้น) ลดลง 72% จากไตรมาส 2/2564โดยในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ ได้มีบันทึกรายการพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการขายหุ้นสามัญของบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GSPC)
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เผย PTTGC รายงานกำไรไตรมาส 3/64 ออกมาตามคาด ให้ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 82 บาท ด้านบล.เอเซีย พลัส (ASPS) แนะ ซื้อ ราคาเหมาะสม 75 บาท