HoonSmart.com>> “บีซีพีจี” เปิดกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 จำนวน 685 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% จากงวดปีก่อน รายได้รวมกว่า 1,300 ล้านบาท กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาส 2/64 รับ High Season ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ และพลังงานลม งวด 9 เดือน กำไร 1,773 ล้านบาท เติบโต 11% ด้าน CEO “บัณฑิต สะเพียรชัย” มั่นใจปี 64 เติบโตแข็งแกร่ง
บริษัท บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2564 กำไรสุทธิ 684.70 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 673.09 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.34 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 1,773.13 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.67 บาท เพิ่มขึ้น 10.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,601.55 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.80 บาท
นายบัณฑิต สะเพียรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 3/64 มีรายได้จากการดำเนินงานที่ 1,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/64 ที่มีรายได้รวม 1,088 ล้านบาท และ เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,238 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 709 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสที่ 3/2563 และจากไตรมาสที่ 2/2564 เติบโต 10.3% และ 40.7% ตามลำดับ
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2564 มีรายได้จากการดำเนินงานที่ 3,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 343 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 3,094 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ 1,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 278 ล้านบาท หรือเติบโต 19.5% เมื่อเทียบกับการดำเนินงานในงวด 9 เดือนปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ 1,424 ล้านบาท
“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของกลุ่มบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ High Season ของฤดูกาลน้ำ ส่งผลให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ Nam San 3B ใน สปป. ลาว ผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นกว่าช่วงปกติ อีกทั้ง ในช่วงดังกล่าว ทั้งในประเทศไทย และฟิลิปปินส์ เริ่มเข้าสู่ฤดูมรสุม ทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานลมมีผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน นอกจากนี้ ยังรวมถึงการได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อินโดนีเซียเพิ่มขึ้น จากอัตราค่าไฟที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง” นายบัณฑิตกล่าว