HoonSmart.com>> “เอพี ไทยแลนด์” ไตรมาส 3/64 กำไรสุทธิ 1,031 ล้านบาท ลดลงเกือบ 29% จากงวดปีก่อน รายได้ลดเหลือ 7,152 ล้านบาท ส่วน 9 เดือนกำไรเพิ่มขึ้น 8% แตะ 3,549 ล้านบาท ลุยโค้งสุดท้ายเปิดตัว 12 โครงการใหม่ มูลค่า 8,570 ล้านบาท
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2564 กำไรสุทธิ 1,031.20 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.328 บาท ลดลง 28.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,450.43 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.461 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 3,548.96 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.128 บาท เติบโต 8.06% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 3,284.34 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.044บาท
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาส 3/2564 อยู่ที่ 6,916 ล้านบาท ลดลง 22.3% จากปีก่อน และรายได้ค่าบริการและค่าบริหารจัดการ 237 ล้านบาท รายได้รวมอยู่ที่ 7,152 ล้านบาท ลดลง 21.8% จากปีก่อน และ 9 เดือนปีนี้มีรายได้ 24,294 ล้านบาท เติบโต 8.7% จากปีก่อน
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP กล่าวถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์โค้งสุดท้ายของปี 2564 ว่า ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับความท้าทายและภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยเฉพาะมาตราการการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดีในช่วงโค้งสุดท้ายของปีคาดว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเซนทิเมนต์ ของผู้บริโภคที่เริ่มดีขึ้น และจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV ไปถึงปีสิ้นปี 2565 ก็ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดี ที่นอกจากจะกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นกลับแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนภาคธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย
บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวม ณ สิ้นเดือนต.ค.64 ได้มากถึง 31,210 ล้านบาท คิดเป็น 88% จากเป้าหมายยอดขาย 35,500 ล้านบาท เป็นสัดส่วนยอดขายจากโครงการแนวราบ 28,594 ล้านบาท ขณะเดียวกันสินค้าแนวราบยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี อีกจำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,570 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่ารวม 5,010 ล้านบาท ด้วยจุดขาย “พลิกแนวคิดชีวิตแนวตั้ง” กับทาวน์โฮมแบรนด์บ้านกลางเมือง และพลีโน่ พร้อมบ้านเดี่ยวแบรนด์เซนโทร (CENTRO) 3 โครงการใหม่ มูลค่า 3,560 ล้านบาท กับการเน้นย้ำจุดยืน “บ้านที่เข้าใจชีวิต”
ทั้งนี้ ปี 2564 ถือเป็นอีกปีที่ซุปเปอร์สตาร์ของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คือสินค้ากลุ่มแนวราบ สะท้อนได้จากตัวเลขทั้งยอดขายและยอดโอนของบริษัทฯ ที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการเติบโตแบบ Organic Growth ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพขององค์กรได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาทุกคนจะต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างมาก แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาสถานะการเติบโตได้อย่างคงที่
ผลการดำเนินงาน 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (รวม 100% JV) และธุรกิจอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 30,324 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิมากถึง 3,549 ล้านบาท ด้านสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 0.56 เท่า ซึ่งทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงความสามารถ ในการบริหารจัดการภายในองค์กร ควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินค้า และการบริหารกระแสเงินสดที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพท่ามกลางภาวะผันผวนที่เกิดขึ้น
บริษัทฯ ยังคงดำเนินแผนธุรกิจด้วยความรัดกุม ควบคู่ไปกับความพร้อมที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยการบริหารจัดการกระแสเงินสด ภายใต้พันธกิจใหญ่ขององค์กร ‘EMPOWER LIVING’ ที่พร้อมส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมาย
ข้อมูลเพิ่มเติม
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2564 รวม 24 โครงการ มูลค่าประมาณ 27,550 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 22 โครงการ มูลค่าประมาณ 19,650 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมจำนวน 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 7,900 ล้านบาท เปิดตัวไปแล้วทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่า 18,980 ล้านบาท คงเหลือเปิดตัวอีกจำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,570 ล้านบาท