HoonSmart.com>> บล.คันทรี่ กรุ๊ป ชี้ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลงอยู่ในจุดน่าสนใจ แนะทยอยสะสมสำหรับระยะกลาง จังหวะเก็บหุ้นกลุ่มอิงในประเทศ สัปดาห์นี้แนะ BBL-PLANB คาดกนง.ประชุมพุธนี้คงดอกเบี้ย
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป เปิดเผยกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ (8-12 พ.ย.) มองกลุ่ม Bank (BBL, KBANK, SCB) น่าสนใจทั้งระยะสั้นและระยะกลาง ขณะที่เชิง Valuation SET ปรับฐานลงมาส่งผลให้ปัจจุบันซื้อขายเพียง 16.5x อยู่ในกรอบค่าเฉลี่ยถึง +1SD ในรอบ 5 ปีย้อนหลังมองเป็นจุดที่น่าทยอยสะสมสำหรับลงทุนระยะกลางโดยเฉพาะกลุ่มอิงในประเทศ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC, CPALL, HMPRO) รถไฟฟ้า (BTS, BEM) สื่อนอกบ้าน (PLANB, VGI) หุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะ (CBG, PTG, SCGP)
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 162 บาท) คาดกำไรจะฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q21 เป็นต้นไป ด้วยปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นส่งผลให้การตั้งสำรองในปีหน้าลดลง อีกทั้งราคาหุ้น ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ 0.5xPBV’22E ถือค่อนข้างถูก กอปรกับ มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 4.6%
PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 7.2 บาท) คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดใน 3Q21 โดยจะมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 4 เป็นต้นไป หนุนจากการใช้จ่ายค่าโฆษณาของภาคเอกชนที่กลับมาอีกครั้งหลังการคลายล็อคดาวน์ การเริ่มรับรู้รายได้จากป้ายสื่อโฆษณาที่ติดตั้งใหม่ และ รายได้ที่เกี่ยวกับกีฬาที่คาดจะฟื้นตัว
ด้านปัจจัยต่างประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐได้รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรากฎว่าเพิ่มขึ้น 5.3 แสนตำแหน่งสูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 4.5 แสนตำแหน่ง สอดคล้องกับอัตราการว่างงานที่ลดลงเหลือ 4.6% ดีกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 4.7% ภายหลังจากรายงานผล Dow Jones เดินหน้าทำ All time high อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามกลับพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปี ปรับตัวลงอย่างมีนัยยะสำคัญ สัญญาณดังกล่าวอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าตลาดเริ่มคลายกังวลกับภาวะเงินเฟ้อในฝั่งอุปทานแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วหลังการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่านักวิเคราะห์คาด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรควรจะปรับสูงขึ้น ขณะเดียวกันหากมาพิจารณาราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะพบว่าเริ่มปรับฐานเช่นกัน อาทิ ค่าระวางเรือ ถ่านหิน รวมถึงทิศทางราคาน้ำมันดิบที่เริ่มไม่เห็นจุดสูงสุดใหม่
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะกลางมีแนวโน้มจะขึ้นมากกว่าลง แต่ระยะสั้นถือเป็นบวกต่อตลาดหุ้นและกลุ่มที่มีต้นทุนเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (BGC CBG EPG SCGP TASCO)
ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ (1) การประกาศผลประกอบการ 3Q21 ซึ่งจะเริ่มเข้าสู่กลุ่ม Domestic Play อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่มีผลกับการลงทุนมากเนื่องจากคาดว่าจะออกมาใกล้เคียงนักวิเคราะห์คาดการณ์หรือหากต่ำกว่าคาดก็ไม่มีผลน่ามีผลมากเพราะตลาดจะให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวมากกว่า
(2) การประชุม กนง. ในวันที่ 10 พ.ย. บล.คันทรี่ กรุ๊ปและตลาดคาดที่ประชุมคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม สำหรับเรื่องของ กนง. บล.คันทรี่ กรุ๊ปมองว่าเรื่องของดอกเบี้ยไม่ได้มีผลใดๆแต่ที่ควรจับตาคือเสียงมติที่ประชุม หากยังคล้ายครั้งก่อนคือมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยจะเป็นสัญญาณยืนยันว่าดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจและส่วนต่างดอกเบี้ยที่จะดีขึ้น
(3) เงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) ที่จะทราบผลช่วงกลางคืนเวลาประเทศไทย Bloomberg คาดที่ +0.5%MoM +5.9%YoY เชื่อว่าตลาดอยากเห็นตัวเลขที่ใกล้เคียงคาด โดยคาด SET INDEX สัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นกรอบ 1615 – 1650 จุด