ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 203 จุด ขานรับข้อมูลจ้างงานแกร่ง

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์พุ่ง 203 จุด ตอบรับจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ดีกว่าคาด หนุนเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจมากขึ้น ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ 3%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ปิดที่ 36,327.95 จุด เพิ่มขึ้น 203.72 จุด หรือ 0.56% จากข้อมูลการจ้างงานเดือนตุลาคมที่ดีกว่าคาด ทำให้เชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น

นอกจากนี้การพัฒนายาเม็ดต้านโควิดจากไฟเซอร์ ส่งผลบวกต่อความหวังเกี่ยวกับการกลับมาเปิดเศรษฐกิจที่ราบรื่นต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มสายการบินและกลุ่มเดินเรือสำราญปรับตัวเพิ่มขึ้น

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,697.53 จุด เพิ่มขึ้น 17.47 จุด, +0.37%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,971.59 จุด เพิ่มขึ้น 31.28 จุด, +0.20%

ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 7

ในสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.4%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 2% และเพิ่มขึ้น 25% จากต้นปีส่วนดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.1%

กระทรวงแรงงานรายงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 531,000 ตำแหน่ง จาก 312,000 ตำแหน่งที่ปรับใหม่จาก 194,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน และสูงกว่า 450,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด

“ตลาดขานรับรายงานการจ้างงานที่ดีกว่าคาด และหุ้นมีการปรับเพิ่มขึ้นในเดือนทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยกลุ่มการผลิตโดดเด่น” นักวิเคราะห์จาก Cornerstone Wealthกล่าว

นักวิเคราะห์จาก Oanda ระบุว่า ตลาดแรงงานฟื้นตัวต่อเนื่องแต่ยังใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะกลับที่การจ้างงานเต็มที่ แต่การจ้างงานที่แข็งแกร่งจะช่วยลดปัญหาห่วงโซ่อุปทาน เมื่อประกอบกับการพัฒนายาเม็ดต้านโควิดของไฟเซอร์ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ

อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.6% จาก 4.8% ในเดือนกันยายน และต่ำกว่า 4.7% ที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นไฟเซอร์เพิ่มขึ้น 11% ส่งผลต่อตลาด จากรายงานข่าวว่า การทดลองยาเม็ดต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทลดความเสี่ยงที่ผู้ใหญ่ติดเชื้อโควิด-19 จะมีอาการรุนแรงขึ้น และลดโอกาสในการเข้าโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตลงได้ 89%

การพัฒนายาเม็ดต้านโควิดของไฟเซอร์ส่งต่อกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์เพิ่มขึ้นกว่า 7% หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 5.7% หุ้นคาร์นิวัลและหุ้นโรยัลแคริบเบียนต่างเพิ่มขึ้นกว่า 8% หุ้นนอร์วีเจียนครูซไลน์เพิ่มขึ้น 7.8%

ตลาดหุ้นยุโรปมีส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นักลงทุนขานรับการพัฒนายาเม็ดต้านโควิดของบริษัทไฟเซอร์ที่ประสบความสำเร็จ และข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมของสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง

ยอดค้าปลีกเดือนกันยายนยูโรโซนลดลง 0.3% จากเดือนก่อน

ในเยอรมนี ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนกันยายนลดลง 1.1% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสหดตัว 1.3%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 483.44 จุด เพิ่มขึ้น 0.23 จุด, +0.05%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,303.96จุด เพิ่มขึ้น 24.05 จุด, +0.33%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,040.79 จุด เพิ่มขึ้น 53.00 จุด, +0.76%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,054.36 จุด เพิ่มขึ้น 24.71 จุด, +0.15%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 81.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 82.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล