โดย…..รัสปูติน
www.HoonSmart.com “ เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 28 ส.ค. 2561
* แรงซื้อกลับมาอีกครั้ง ทำให้มูลค่าซื้อขายกลับมาปกติ แถมดัชนีบวกแรง ทำท่าทะยานเหนือ 1,720 จุดอีกครั้ง แม้ว่าจะยังต้อง รอการยืนยันอีกครั้งที่เหนือ 1,740 จุด แต่เรื่องจะลงง่ายๆ บอกได้ว่าไม่มีทาง ยิ่งค่าบาทแข็งเทียบดอลลาร์มากสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งด้วยแล้ว ถ้าไม่สะดุดขาตัวเองเสียก่อนก็คงทะลวงแนวต้านใหม่ขึ้นเป็นภาวะกระทิงได้ เพียงแต่อย่าหลงระเริงก็แล้วกัน
* ตูข้าเคยบอกแล้วว่า หุ้นพลังงานและปิโตรเคมีคือของตายสำหรับตลาดที่การซื้อขายเสมือนเวียนเทียนกระจุกตัวอยู่แค่ไม่เกินหุ้นขนาดใหญ่ไม่เกิน 20 ตัว ก็ต้องมีสลับหมุนเวียนแก้เบื่อดูสถานการณ์ในช่วงไซด์เวย์ก่อนตามปกติ เพียงแต่ยามนี้มีปจจัยบวกเพิ่มเติมเรื่องค่าดอลลาร์อ่อนผสมโรงเข้ามา
* นี่คือตัวอย่าง..เวลาจนแต้มคิดอะไรไม่ออก บอกพี่เทพ ทันใจดี วานนี้ PTTEP แค่ออกข่าวธรรมดาว่า มีความสนใจซื้อสินทรัพย์ของ Hess Corp ในประเทศมาเลเซีย เนื่องจากสอดคล้องกับกลยุทธ์ในการ M&A ที่ประกาศไว้ ได้แก่ เป็นสินทรัพย์ที่ผลิตแล้วหรือกำลังจะเริ่มผลิต ในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Hess ถือสัดส่วน 50% ร่วมกับ Petronas ใน 2 โครงการในประเทศมาเลเซีย…นี่แค่เปรยนะ ก็ถูกตีความเชิงบวก ทำให้ราคาหุ้นนำทางดัชนี เหตุผลว่า เป็นการส่งซิกผลงานไตรมาสสาม จะโตแจ่ม รับปริมาณขายปิโตรเลียมเพิ่ม ลากดัชนีไปได้ทั้งวัน
* นี่ก็ยังไม่ทันจะทำอะไร ก็มีคนเตรียมตัวดันเสียแล้ว มีคนเก็ง STEC แต่เช้าให้เป้า 25.00 บาท อ้างเหตุว่า นายกเปิดก่อสร้างรถไฟฟ้า ชมพู เหลือง วานนี้แต่พอตกบ่าย เปลี่ยนหุ้นตัวใหม่ทันที แนะสะสม BEM หุ้นรถไฟฟ้า หลังจากมีข่าวเตรียมประกวดสายสีส้ม แนะซื้อราคาเหมาะสม 9.0บาท (อ้างว่ายังมี Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ) โดยคาดเดาว่า ผลประกอบการไตรมาสสาม จะทำระดับสูงสุดบริเวณ 950 ล้านบาท จากฤดูกาลเดินทาง ในขณะที่ปัจจุบันบริษัทกำลังเข้าสู่ช่วงการประมูลสายสีส้ม และสายม่วงต่อขยาย ที่เป็นทำเลทองผ่าไข่ดาว กทม. และเจรจาต่อสัมปทานทางด่วน ซึ่งเชื่อกันว่าบริษัทมีโอกาสได้ถึง 2/3
* เปิดหน้าเชียร์กันแล้ว ก็มีคนบอกเพิ่มเติมว่า ในปีหน้า BEM จะเปิดให้บริการน้ำเงินส่วนต่อขยายคาดผู้โดยสารเติบโตก้าวกระโดดจาก 3.5 แสนหัวคน เพิ่มเป็น 5.0 แสนเที่ยว
* รายนี้ก็มีคนอยากป็นขาเชียร์กันเยอะ คำแนะนำซื้อสะสม BJC ผ่านแนวต้านใหม่ 57.00 บาท อ้างเหตุปัจจัยว่าแนวโน้มยอดขายต่อห้างสาขาเดิมของ BIGC ในเดือน ก.ค. พลิกเป็นบวก หลังจากที่ติดลบเล็กน้อยในไตรมาสสอง และอยู่ระหว่างเตรียมเปิดสาขารูปแบบใหม่ที่เน้นสินค้าประเภทอาหาร และกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อดี ในขณะที่กลุ่ม Packaging และ Consumerแม้จะยังอ่อนตัวก็ไม่เลวร้ายอะไร..เสี่ยเจริญซะอย่าง
* FSMART ของดีที่ถูกมองข้าม มีการตอกย้ำว่า จะรับผลดีจากที่มีการปรับกลยุทธ์เคลื่อนย้ายตู้บุญเติมที่ไม่มียอดใช้บริการต่ำไปยังทำเลที่มีศักยภาพมากขึ้น ช่วยอัตรากำไรสุทธิปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 16.14% อีกทั้งบริษัทยังเตรียมเพิ่มบริการการจำหน่ายซิมการ์ด และการรับพิสูจน์ตัวตน (KYC) คาดจะเริ่มเห็นการให้บริการดังกล่าวผ่านตู้บุญเติมเป็นตู้แรกในไตรมาส 4/61 นี้เป็นต้นไป โดยตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 1 หมื่นตู้ในไตรมาสสองปีหน้า…ย่างนี้คงต้องถือยาว แม้วอลุ่มยังไม่มาก
* ที่สำคัญ ผู้บริหาร FSMART ที่กำลังไฟแรงสุด ประกาศตั้งเป้าหมายยอดขายซิมการ์ดผ่านตู้บุญเติมที่ 20% ของยอดขายซิมโดยรวม และตั้งเป้ารายได้จากการรับพิสูจน์ตัวตน (KYC) ผ่านตู้เติมเงินในการเปิดบัญชีทั้งในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงิน (Non-bank) ไว้ที่ 10 บาท/ครั้ง ..ไม่มี e-wallet คงไม่ตายนะ บุญเติม
* เผลอแผล็บเดียว หุ้นหมอเหลิม BCH ราคาเฉียดกรายใกล้ 20.00 บาทเข้าไปแล้ว ไตรมาสสามยังมีคนเชียร์ เพราะคาดว่ากำไรสุทธิยังดีจากอานิสงส์ของ High Season และมีปัจจัยหนุนจากการบันทึกรายได้ส่วนเพิ่มในฝั่งค่าภาระเสี่ยงของประกันสังคม ทำให้คาดกำไรครึ่งหลังของปี ต่อเนื่องถึงปีหน้า ยังแข็งแกร่งโดยยังไม่มีแรงกดดันจากการเปิดโรงพยาบาลใหม่และได้แรงหนุนจากการตรวจสุขภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาของภาครัฐ
* เสือซุ่ม ของประธานสุวรรณ วลัยเสถียร SVI ข้อมูลจากประชุมโบรกเกอร์โผล่มาว่า มีโทนบวกมาก ผู้บริหารให้ภาพคำสั่งซื้อที่แข็งแกร่งในครึ่งหลังปีนี้ และต่อเนื่องไปในปีหน้า โดยปรับเป้ารายได้ในปี 2018 ขึ้น 9% เป็น 480 ล้านดอลลาร์ และจะโตต่อเนื่องเป็น 640 ล้านในปี ส่วนปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบคลี่คลายลงไปมากจนเกือบปกติ และทำให้บริษัทสามารถสร้างอัตรากำไรขั้นต้นกลับสู่ระดับที่เคยทำได้ 9% – 10% อีกครั้ง โดยมองผ่านกำไรต่ำสุดแล้วในไตรมาสแรก แต่ด้วยคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่ทำจุดดีสุด ทำให้บริษัทขยายกำลังการผลิตที่ไทย และยุโรปต่อเนื่อง ซึ่งใช้เวลาไม่นานเพียงติดตั้งเครื่องจักร โดยผู้บริหารมั่นใจว่าจะสามารถรองรับคำสั่งซื้อได้ทั้งหมด เอื้อต่อการทำธุรกิจของบริษัทอีกครั้ง และดีกว่าเดิมที่เคยคาด ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 6.00 บาท ดูจะต่ำเกินไป
* สัญญาณดีจากวอลล์สตรีทคืนที่ผ่านมา ดาวโจนส์ปิดเหนือ 26,000 จุด แนสแดกเหนือ 8,000 จุด …สูเจ้าโตกันแล้ว ใช้สมองตรองได้ว่า ควรซื้อ หรือขาย