ดาวโจนส์ลบ 33 จุด กลุ่มเทคโนโลยีบวก

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 33 จุด หลังตอบรับเฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ลด QE ตามคาด แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลนยีหนุนดัชนี S&P500 และ Nasdaq บวกปิดนิวไฮ ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบร่วง 2%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ปิดที่ 36,124.23 จุด ลดลง 33.35 จุด หรือ 0.09% แม้นักลงทุนยังคงขานรับผลการประชุมของธนาคารกลาง (เฟด) ที่ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย และข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง แต่แรงซื้อในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดบวกที่นิวไฮ

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,680.06 จุด เพิ่มขึ้น 19.49 จุด, +0.42%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,940.31 จุด เพิ่มขึ้น 128.72 จุด, +0.81%

หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 1.14% หุ้นไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้น 0.73% หุ้นNvidia เพิ่มขึ้น 12.04% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 1.39%

หุ้นควอลคอมเพิ่มขึ้น 12.7% จากผลการดำเนินงานดีกว่าคาด

เมื่อวานนี้เฟดแถลงว่าจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตรตั้งแต่เดือนนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสามารถรับมือกับการยุติมาตรการกระตุ้นได้ และเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดไว้ และขานรับที่เฟดไม่ได้ส่งสัญญานที่จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังจากมาตรการสิ้นสุดลง

นักวิเคราะห์จากSanders Morris Harris ระบุว่า การแถลงลดซื้อพันธบัตรของเฟด ทำให้นักลงทุนคลายกังวลเพราะรอการประกาศนี้มานานและยังตอกย้ำมุมมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังต่อเนื่อง ภายในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เป็นสัญญาณความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจซึ่งจะมีผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนและตลาด

นักลงทุนยังขานรับข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานรายงาน การยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วลดลง 14,000 รายมาที่ 269,000 ราย ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 และต่ำกว่า 275,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด

นักวิเคราะห์จาก E-Trade Financial ชี้ว่า ข้อมูลนี้ตอกย้ำการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่เฟดต้องการเห็นตลาดแรงงานที่สดใสกว่านี้ ดังนั้นนักลงทุนจึงจับตาการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมในวันศุกร์นี้ ที่จะให้ภาพการจ้างงานเต็มที่รวมทั้งว่าจะมีผลต่อการดำเนินนโยบายของเฟดอย่างไร

นักวิเคราะห์คาดว่า การจ้างงานเดือนตุลาคมจะเพิ่มขึ้น 450,000 ตำแหน่งจากที่เพิ่มขึ้น 194,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน

หุ้นโมเดอร์นาลดลง 17.8% หลังปรับลดคาดการณ์ยอดขายวัคซีนโควิดลดง

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 1.34% โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 2.35% หุ้นเจพีมอร์แกน ลดลง 1.31% หุ้นมอร์แกน สแตนเล่ย์ ลดลง 2.76% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 2.13%

ตลาดหุ้นยุโรปมีส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีเที่เพิ่มขึ้น 1.4% แต่หุ้นกลุ่มธนาคารลดลง 2% นักลงทุนขานรับการแถลงผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ว่าจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตรตั้งแต่เดือนนี้ รวมทั้งการคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ ซึ่งสวนทางกับที่คาดว่าจะเป็นธนาคารกลางแรกที่ขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 483.21 จุด เพิ่มขึ้น 1.99 จุด, +0.41%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,279.91 จุด เพิ่มขึ้น 31.02 จุด, +0.43

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,987.79 จุด เพิ่มขึ้น 37.14 จุด, +0.53%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,029.65 จุด เพิ่มขึ้น 69.67 จุด, +0.44%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.05 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 78.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.45 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 80.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล