HoonSmart.com>>กกร.เพิ่มเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้เป็นโต 0.5-1.5% ผลจากการเปิดประเทศของรัฐบาล หนุนเศรษฐกิจช่วงปลายปีคึกคักมากขึ้น แนะรัฐดูแลการเปิดประเทศให้ต่อเนื่องไม่สะดุด สร้างความเชื่อมั่น ห่วงน้ำมันแพงกระทบต้นทุนและราคาสินค้า
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า กกร.ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 64 ดีขึ้นมาอยู่ในกรอบ 0.5-1.5% จากเดือน ต.ค.ที่คาดว่าจะขยายตัว 0.0-1.0% กกร. ส่วนการส่งออกยังคงคาดการณ์เดิม 12.-14% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบ 1.0 -1.2% เนื่องจากการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2564 ช่วยหนุนเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี รวมถึงคาดการณ์อัตราการเข้าพักที่ผู้ประกอบการโรงแรมปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 25% ในเดือนพ.ย. เทียบกับ 15% ในเดือน ก.ย.
การจับจ่ายใช้สอยในภูมิภาคปรับดีขึ้น ส่วนภาคการค้าปลีกมองว่า ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 มาแล้ว สอดคล้องกับมองของนักธุรกิจต่างชาติในประเทศไทย เชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งสัญญาณเหล่านี้ทำให้คาดการณ์ว่า ภาพเศรษฐกิจในช่วงปลายปีจะมีความคึกคักมากขึ้น และพร้อมๆ กับมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศของภาครัฐ อาทิ โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
โดยภาคเอกชนยังหวังว่าภาครัฐจะมีมาตรการเสริม เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย เช่น มาตรการช้อปดีมีคืน เพราะจะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจในปลายปีนี้กลับมาคึกคักมากขึ้นและต่อเนื่องไปยังปีหน้า
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันแพงนั้น ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าต้นน้ำสูงขึ้น ได้แก่ เหล็ก ปูน กระดาษ หากราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงหรือปรับเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้าง
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว รัฐบาลเป็นกลไกสำคัญในการจัดสรรทรัพยากร และการเปิดประเทศให้มีความต่อเนื่อง เพราะภาคเอกชนจะได้วางแผนการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน