HoonSmart.com>> “บ้านปู” เผยบริษัทในกลุ่มเซ็นสัญญาขายหุ้นทั้งหมด 47.5% ใน Sunseap Group ธุรกิจโรงไฟฟ้าในสิงคโปร์ กำลังผลิต 320 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีกกว่า 700 เมกะวัตต์ มูลค่าซื้อขายกว่า 1.21 หมื่นล้านบาท คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/65 เตรียมนำเงินลุยลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดตามแผน
บริษัท บ้านปู (BANPU) และบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2564 บริษัท BPIN Investment Co., Ltd. (BPINI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จํากัด (Banpu NEXT) และ BPP ถือหุ้นใน Banpu NEXT สัดส่วนเท่ากัน 50% ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อขายหุ้นทั้งหมดที่สัดส่วน 47.5% ในบริษัท Sunseap Group Pte, Ltd. (Sunseap) ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ให้แก่บริษัท EDP Renováveis SA (EDPR) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียน จดทะเบียนในประเทศสเปนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์EuronextLisbon stock exchange of Portugal
การจําหน่ายหุ้น Sunseap ของ BPINI ถือเป็นส่วนหนึ่งของรายการทําคําเสนอซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ Sunseap โดย EDPR ภายใต้สัญญาการซื้อขายดังกล่าวการจําหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดโดย BPINI มีมูลค่าเท่ากับ 489.8 ล้านดอลลาร์ สิงคโปร์ หรือเทียบเท่า 364 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเท่าประมาณ 12,154 ล้านบาท) ทั้งนี้การซื้อขายจะมีผลสมบูรณ์เมื่อบรรลุเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญาฯ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2565
ณ ต้นปี Sunseap มีกําลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุน จากโรงไฟฟ้าที่เปิดดําเนินการแล้วรวมทั้งสิ้น 320 เมกะวัตต์ ซึ่งกว่าครึ่งของกําลังการผลิตดังกล่าวตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีกกว่า 700 เมกะวัตต์ กระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ
BPINI ได้ทําการลงทุนครั้งแรกใน Sunseap ในปี 2560 และมีการลงทุนเพิ่มในปี 2561 และปี 2563 เพื่อสนับสนุนแนวทางการลงทุนเพื่อการเติบโตของ Sunseap โดย ณ วันที่ 30 มิ.ย.2564 BPINI รายงานเงินลงทุนใน Sunseap รวม 236.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเทียบเท่า 177.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเท่าประมาณ 5,569 ล้านบาท)
ทั้งนี้ การจําหน่ายหุ้นดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการการลงทุน (Portfolio Rationalization) โดยบริษัทฯ จะนําเงินทุนที่ได้จากการจําหน่ายไปลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดเพื่อสร้างความเติบโตตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ด้วยโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายกําลังการผลิต 6,100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568