ดาวโจนส์บวก 94 จุด จับตาการประชุมเฟด

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 94 จุด ได้แรงซื้อหุ้นโบอิ้ง และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัวหนุน นักลงทุนยังคงจับตาการประชุมเฟด ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ปิดที่ 35,913.84 จุด เพิ่มขึ้น 94.28 จุด หรือ 0.26% ซึ่งเป็นระดับนิวไฮในวันแรกของการซื้อขายเดือนนี้ จากการปรับขึ้นของหุ้นโบอิ้ง และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,613.67 จุด เพิ่ม 8.29 จุด, +0.18%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,595.92 จุด เพิ่มขึ้น 97.53 จุด, +0.63%

หุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 3.65%

ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว หุ้นฟอร์ดเพิ่มขึ้น 5% หุ้นอ็อกซิเดนทัล ปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 3.8% หุ้นแคทเธอร์พิลลา เพิ่มขึ้น 0.72% หุ้นกลุ่มสายการบินส่วนใหญ่ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 4.14% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 2.97% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 3.31

หุ้นเทสลาเพิ่มขึ้นขึ้น 8.49% นักลงทุนเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์จาก Fundstrat ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการปรับขึ้นของหุ้นคือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่ง การระบาดของโควิด-19 ที่ดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนให้ประชาชนและการฉีดวัคซีนกระตุ้น ความเสี่ยงด้านสุขภาพทีดีขึ้นจะเห็นชัดเจนต่อเนื่องในปี 2022

อย่างไรก็ตามนักลงทุนเกาะติดการประชุมของธนาคารกลาง(เฟด) วันที่ 2-3 พฤศจิกายนนี้ซึ่งคาดว่าจะประกาศว่าจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตรลงจากวงเงิน 120 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือนที่วางไว้และยุติการซื้อภายในกลางปีหน้า รวมทั้งรอความเห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมาที่ระดับสูงสุดรอบ 30 ปี

นักวิเคราะห์จาก Bleakley Advisory Group ระบุว่า เฟดก็เป็นหนึ่งในธนาคารกลางโลกที่จะยุติมาตรการกระตุ้น แต่ตลาดก้าวผ่านปัจจัยนี้มาแล้ว และตอนนี้ตลาดมีทางเลือก 2 ทางคือเจอเงินฟ้อกับการขึ้นดอกเบี้ย และการตอบสนองจากธนาคารกลางอื่น

สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงาน ดัชนีภาคการผลิตเดือนตุลาคมอ่อนตัวลงสู่ระดับ 60.8 จาก 61.1 ในเดือนกันยายน แต่ยังคงสูงกว่า 60.5 ที่นักวิเคราะห์คาด

กระทรวงพาณิชย์รายงาน การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนกันยายนลดลง 0.5% จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.4%

นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตาข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมในวันศุกร์นี้

ตลาดหุ้นยุโรปมีส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้น 1.4% หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหภาพยุโปรจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาข่าวรายตัวของบริษัทจดทะเบียน และเกาะติดการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) วันที่ 2-3 พฤศจิกายนนี้

หุ้นบาร์เคลย์ลดลง0.8% หลังซีอีโอหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจากการสอบสวนความสัมพันธ์กับเจฟฟรี เอปสไตน์ นักการเงินสหรัฐฯที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าค้าโสเภณี ซึ่งฆ่าตัวตายขณะถูกจองจำ

หุ้นไรอัน แอร์เพิ่มขึ้น 1.2% จากรายงานผลกำไรรายไตรมาสครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 478.87 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด, +0.71%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,288.62 จุด เพิ่มขึ้น 51.05 จุด, +0.71%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,893.29 จุด เพิ่มขึ้น 62.95 จุด, +0.92%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,806.29 จุด เพิ่มขึ้น 117.52 จุด, +0.75%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 84.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ ปิดที่ 84.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล