บล.คิงส์ฟอร์ดคาดกรอบหุ้น 1,610–1,635 จุด รอเฟด

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” ประเมินแนวรับดัชนี 1,610–1,635 จุด แนวต้าน 1,630 จุด รอผลประชุม FED-BOE หุ้นแนะนำวันนี้ ASK-SPVI

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,610 – 1,620 จุด แนวต้าน 1,630 – 1,635 จุด ระหว่างรอผลประชุม Fed แนะนำทยอยซื้อกลุ่มร้านอาหาร, ค้าปลีก ได้ประโยชน์เปิดเศรษฐกิจ เช่น M, ZEN. CPN, CRC, CPALL / โรงพยาบาล BH, BDMS (ลูกค้าต่างชาติคาดเพิ่มขึ้น)

สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี SET-1.21% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 7.09 หมื่นล้านบาท/วัน ลดลง -12.3% WoW สัปดาห์ที่ผ่านมาต่างชาติขาย 6.82 พันล้านบาท สถาบันขาย 3.69 พันล้านบาท อยู่ระหว่างรอผลการประชุม FED, BOE ว่าจะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินตึงตัวขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ รวมถึงการประชุมโอเปกพลัส กอปรรอรายงานกำไร บจ. Q3/64 ซึ่งส่วนใหญ่มีแนวโน้มชะลอตัวจาก มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่ดัชนี SET ปัจจุบันเทรดที่ระดับ Forward P/E ที่ 18.6X ส่งผลให้ Upside ดัชนีค่อนข้างจำกัด และรอประเมินจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นหรือไม่หลังเปิดประเทศ

ปัจจัยสำคัญวันพุธนี้ติดตามผลการประชุมเฟดคาดจะประกาศเริ่มลด QE วงเงินราว 1.2 – 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และคาดการปรับขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งเหมือนเดิมหรือไม่

วันพฤหัสนี้ติดตาม BOE อังกฤษคาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้ออังกฤษ ก.ย. +3.10% YoY และโอเปกพลัสว่าจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่า 4 แสน บาร์เรล/วัน หรือไม่

ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ ดัชนีนิเกอิ +2% กว่า จากคาดการณ์พรรค LDP ของนายคิชิดะจะชนะการเลือกตั้ง

สำหรับหุ้แนะนำวันนี้ ได้แก่ ASK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 49.00 บาท) ตลาดคาดแนวโน้มกำไร 3Q64 โต QoQ, YoY ทำระดับ New High จากแนวโน้มสินเชื่อที่เติบโตโดดเด่นจากการปล่อนสินเชื่อในกลุ่มรถบรรทุกขยายตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะสัดส่วนสินเชื่อรถบรรทุกมือสองที่เพิ่มขึ้น เป็นบวกต่อรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ ในขณะที่ Credit Cost ลดลงจากการตั้งสำรองหนี้สูญลดลง QoQ (One-time Write off) มองไปข้างหน้าทิศทางยังดีต่อเนื่องในช่อง 4Q64 จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และความต้องการสินเชื่อรถบรรทุกเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ในปี 65 ตลาดคาดกำไรเติบโตเฉลี่ยต่อเนื่องที่ราว +25%YoY

หุ้น SPVI (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.66 บาท) แม้ว่าผลการดำเนินงานในช่วง 3Q64 จะถูกกดดันจากการปิดสาขาจำนวนมากสืบเนื่องจากการระบาดของ Covid-19 แต่ยังมี Demand จากการ Work/Learn from Home เข้าช่วย ขณะที่ ปัจจุบันเข้าสู่ High Season ใน 4Q64 อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากม.ผ่อนคลายการควบคุมโรค และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ด้านสินค้าหลักจาก ค่าย Apple ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม โดย iPhone 13 ซึ่งได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี64 และ ปี65 จะขยายต่อเนื่องจากปี 63 ที่ 0.18 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.25 บาท/หุ้น, และ 0.33 บาท/หุ้น ตามลำดับ