ดาวโจนส์บวก 89 จุด หุ้นไมโครซอฟต์มาร์เก็ตแคปล้ำหน้าแอปเปิล

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 89 จุด นักลงทุนมองข้ามผลประกอบการที่ผิดหวังของแอปเปิลและแอมะซอน หลังรายได้ กำไรออกมาต่ำกว่าคาด ด้านตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งบวกและลบ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 29 ตุลาคม 2564 ปิดที่ 35,819.56 จุด เพิ่มขึ้น 89.08 จุด หรือ 0.25% นักลงทุนมองข้ามผลประกอบการที่ผิดหวังของแอปเปิลและแอมะซอน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,605.38 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด, +0.19%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,498.39 จุด เพิ่มขึ้น 50.27 จุด, +0.33%

ในสัปดาห์นี้ ดัชนี DJIA เพิ่มขึ้น 0.4%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.3% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.7% และทั้งเดือนตุลาคม ดัชนี DJIA เพิ่มขึ้น 5.8%, ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.9% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 7.3%

หุ้นแอมะซอนลดลง 2.1% จากรายได้และกำไรต่ำกว่าคาด หุ้นแอปเปิลดลง 1.8% จากรายได้ต่ำกว่าคาดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2017

แต่หุ้นไมโครซอฟต์เพิ่มขึ้น 2.2% ส่งผลให้ market cap สูงเกินแอปเปิลและกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่สุดของโลก รวมทั้งเป็นแรงหนุนตลาด

จนถึงตอนนี้ราวครึ่งหนึ่งของบริษัทในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลการดำเนินงานแล้วซึ่งกว่า 80% ของจำนวนนี้มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด และคาดว่ากำไรไตรมาสสามจะขยายตัว 38.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

นักวิเคราะห์จาก Edward Jones ระบุว่า จากผลการดำเนินงานสะท้อนว่าบริษัทจดทะเบียนสามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และยังได้รับผลบวกจากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้รายได้หรืออัตรากำไรขั้นต้นลดลง

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากส่วนข้อมูลเศรษฐกิจโดยกระทรวงพาณิชย์รายงาน การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 0.6% จาก 1.0% ในเดือนสิงหาคม รายได้ส่วนบุคคล ลดลง 1.0%

ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนและ เพิ่มขึ้น 4.4% จากระยะเดียวกันปีก่อน ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 1991 ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนและ เพิ่มขึ้น 3.6% จากระยะเดียวกันปีก่อน

นอกจากนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศกรอบวงเงินสวัสดิการสังคมที่1.75 ล้านล้านดอลลาร์หลังจากที่ตกลงได้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ร่างกฎหมายงบประมาณโครงสร้างพื้นฐานจะผ่านสภาคองเกรสง่ายขึ้น

นักวิเคราะห์จาก BMO Wealth Management ระบุว่า ข้อตกลงกรอบงบประมาณจะทำให้นักลงทุนมีมุมมองทางบวกมากขึ้น

นางเจเน็ต เยลเลนรัฐมนตรีคลังให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่า หวังว่าร่างกฎหมายงบประมาณโครงสร้างพื้นฐานจะได้รับการอนุมัติโดยเร็ว และเชื่อว่าจะไม่เพิ่มแรงกดดันให้กับเงินเฟ้อ แต่จะเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งบวกและลบ จากการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนทั้งในสหรัฐฯและยุโรป โดยกลุ่มสาธารณูปโภคลดลงมากสุดกว่า 1%

เงินเฟ้อยูโรโซนเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 4.1% สูงสุดในรอบ 13 ปี

หุ้นวอลโว่เพิ่มขึ้น 22% เหนือราคา IPO จากการเข้าซื้อขายเป็นวันแรก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 475.51 จุด เพิ่มขึ้น 0.35 จุด, +0.07%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,237.57 จุด ลดลง 11.90 จุด, -0.16%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,830.34 จุด เพิ่มขึ้น 26.12 จุด, +0.38%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,688.77 จุด ลดลง 7.56 จุด, -0.05%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ ปิดที่ 83.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 84.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล