คุ้ย แคะ แกะ เกา : ตุ๊กแกย่อมร้อนท้อง

โดย…รัสปูติน

www.HoonSmart.com “ เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 27 ส.ค.2561

* มีข่าวร้ายสำหรับวอลลืสตรีท แต่เป็นข่าวดีสำหรับค่าเงินบาที่สูเจ้าต้องจำก่อนเข้าตลาดสัปดาห์นี้ เรื่องแรก ผลการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน ไม่คืบหน้า ดันให้ตลาดจำต้องลุ้นแล้วจับตาว่าหลัง 6 กันยายนเป็นต้นไป เส้นตายที่กำหนดว่าสหรัฐจะเพิ่มวงเงินเล่นงานจีนเก็บภาษีเพิ่ม 2.0 แสนล้านดอลลาร์ จะเริ่มส่งผลต่อผู้บริโภคเป็นวงกว้าง เพราะเป็นสินค้าบริโภคขั้นปลาย (Consumer goods) เพิ่มจาก 5.0 หมื่นล้านบาท ที่ส่วนมากเป็นสินค้ากึ่งสำเร็จหรือวัตถุดิบ (Intermediate goods)

* เรื่องที่สอง โดนัลด์ ทรัมป์ ออกอาการ “ตุ๊กแก” คือกินปูนร้อนท้อง ออกมาจับตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเป็นตัวประกันเสียดื้อๆ หลังมีกระแสข่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่เขาจะถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ระบุหน้าตาเฉยว่า หากเขาถูกถอดถอนจากตำแหน่งประธานาธิบดี ตลาดหุ้นอาจร่วงหนักอย่างแน่นอน และว่าหากไม่ได้ความคิดหรือการวางแผนของเขา ทุกคนจะต้องประสบกับภาวะยากจน…พร้อมทั้งยังตั้งคำถามกลับว่า เขาจะถูกถอดถอนจากตำแหน่งประธานาธิบดีได้อย่างไร ในเมื่อเขาปฏิบัติหน้าที่นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม

* เรื่องที่สาม ประธานเฟดฯ พาวเวลล์ ถูกตีความใหม่ว่า มีโทน “สายเหยี่ยว” ลดลง ท่าทีดังกล่าวทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง เป็นบวกอ้อมๆ ต่อการลงทุนในเอเชีย โดยเฉพาะไทยที่มีโอกาสเดินหน้าไปต่อแบบไซด์เวย์อัพ

* ส่วนข่าวร้ายที่เปรียบได้กับ “สนิมเกิดแต่เนื้อในตน” ก็มีสองเรื่อง เรื่องแรกเห็นจะเป็น กรณีวอลุ่มเทรดหดหาย ต่ำกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท 3 วันรวด ไม่ปกติแน่ ไม่ว่าดัชนี SET ปิดบวกหรือปิดลบ เพราะมันบอกอาการตลาดวาย ทั้งที่ฟันด์โฟลว์กำลังไหลเข้าเนื่องจากค่าบาทนั้นเป็นสุดที่รักของกองทุนเฮดจฟันด์ในยามนี้เป็นที่ยิ่ง

* เรื่องที่สอง กรณี MSCI พี่ใหญ่กองทุนต่างชาติลดเพดาน หรือดาวน์เกรดหุ้นไทยลง 0.2% ดูไม่เยอะก็จริง แต่ต้องลงลึกว่าลดจากฐานเดิมที่เท่าใดกันแน่ ตูข้ามีลางสังหรณ์ก้ำกึ่ง ว่าจากนี้ไป…คงต้องเล่นท่ายากขึ้น

* สูเจ้าจงจับตาให้ดี คือหุ้น SCB ธนาคารใหญ่ที่เล่นเกม “บริหารความเสี่ยงให้ลูกค้า” ที่หวือหวามาหลายปี ล่าสุดโยงใยเข้ากับกรณี WEH หุ้นพลังลมเจ้าปัญหาระหว่างสงครามแย่งชิงหุ้น จนต้องออกข่าวแก้ตัวยาวเหยียดในหลายเรื่อง นับแต่ 1) ธนาคารฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทดังกล่าว 2) ธนาคารฯ มิได้รับเอาหุ้น WEH ซึ่งเป็นทรัพย์พิพาทในคดีมาเป็นหลักประกัน 3) ไม่มีนโยบายที่จะให้การสนับสนุนทางการเงินใด ๆ แก่กลุ่มผู้ถือหุ้นปัจจุบัน (ณรงค์เดช) เพื่อนำไปชำระหนี้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (นพพร) ตามสัญญาซื้อขายหุ้น 4) กรณีข้อพิพาทภายในครอบครัวผู้ถือหุ้นปัจจุบัน ธนาคารฯ ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใดทั้งสิ้น

* ข้อความที่ปฏิเสธ “ไม่รู้ไม่เห็น” ดังกล่าว ตีความได้ง่ายๆว่า “รู้ แต่กันตัวเองออกจากความขัดแย้งใดๆ” …ไม่ต้องใช้คำว่า ปัดสวะ…ก็คงเข้าใจกันได้ดีว่าทำไมต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงทะแม่งๆ อย่างนี้

* ที่น่าสนใจตรงที่กราฟรายสัปดาห์ของ SCB มีราคาปรับขึ้น 6 สัปดาห์รวด ล่าสุดราคาปิดที่ผ่านมา 147.00 บาท ต้องถือว่า ไม่ใช่ธรรมดา เพราะสำหรับตูข้า มันต้องมีอะไรประเภท”..เพียงกระเพื่อมเลื่อมรับวับวับไหว ก็รู้ว่าน้ำใสใช่กระจก เพียงแววตาคู่นั้นหวั่นสะทก ก็รู้ว่าในหัวอกมีหัวใจ…” น่าลิ้มลองว่า จะต้องมีอาเภทเกิดขึ้นที่นี่ ส่วนวันไหน อย่างไร…อย่าถามตูข้า

* สูเจ้าโปรดจำให้ดี ในยามนี้ หากจะหาหุ้นธนาคารที่ไว้วางใจได้ ตูข้าขอบอกว่า BBL จะปลอดภัยสุด เพราะรายได้และกำไรที่เป็นกอบเป็นกำจาก Bancassurance หรือเป็นตัวแทนขายกรมธรรม์ประกันชีวิตนั้น ดีวันดีคืนมาก ราคาล่าสุด 207.00 บาท ถ้ายังไซด์เวย์ต่อ มีโอกาสทะลวงแนวต้านใหม่ ที่เหนือ 210 บาท ไปได้ รับรอง…ช้างก็หยุดกระทิงไม่อยู่

* AU ทำนิวโลว์นับแต่เข้าตลาด อ้างเหตุกำไรไตรมาสสองลดลงต่ำคาดแค่ 3 ล้านบาท แต่ตัวเลขกำไร 6 เดือนยังสวยต่อ ก็ไม่ใช่เรื่องปกติเช่นกัน อยู่ที่จะกล้าช้อนกันรึป่าวเท่านั้น..คล้ายคลึงกับกรณี TEAMG ไม่มีผิด