BBL-KBANK เด่น โบรกฯเพิ่มเป้าราคาหุ้น

HoonSmart.com>>นักวิเคราะห์ประสานเสียงกลุ่มแบงก์ ผลงานดีเกินคาดไตรมาสที่ 3/64  บล.โนมูระฯคงเป้ากำไรรวมทั้งปี 1.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% บล.บัวหลวงเพิ่มเป้ากำไร BBL ปี64-65  บล.หยวนต้าให้เป้าใหม่ 155 บาท  บล.กรุงศรียก KBANK-TTB เด่น บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เชียร์ กสิกรฯ ขยับราคา 170 บาทเพิ่มกำไร SCB แต่แนะเพียง ถือ ราคาแพงเกินไป 

 

บล.โนมูระ พัฒนสินให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารมากกว่าตลาด หลังรายงานกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3/2564 ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท ดีกว่าที่โนมูระฯและตลาดคาดการณ์ +8% โดยกำไรที่เติบโต +52% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาจากสินเชื่อขยายตัวดี, รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตจากค่าธรรมเนียม และเงินลงทุน, ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน และค่าใช้จ่ายสำรองลดลง

ส่วนกำไรที่ลดลง -2% เทียบกับไตรมาสที่ 2 เกิดจากรายได้ค่าธรรมเนียมอ่อนแอลง จากการปิดสาขาชั่วคราว

ธนาคารที่มีกำไรเติบโตเด่นกว่ากลุ่มฯ คือธนาคารกรุงเทพ(BBL) , ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) และธนาคารไทยพาณิชย์( SCB) ส่วนบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป(TISCO) มีกำไรอ่อนแอกว่ากลุ่ม

แนวโน้มกำไรงวดไตรมาสที่ 4 เติบโตเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากค่าใช้จ่ายสำรองลดลง และสินเชื่อที่เติบโตดีขึ้น แต่กำไรจะลดลงเทียบไตรมาสที่ 3 เพราะค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้นตามฤดูกาล และกำไรจากเงินลงทุนลดลง

“เรายังคงประมาณการกำไรกลุ่มปีนี้ที่ 1.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 24%  จากปีก่อน และยังคงน้ำหนักการลงทุนของกลุ่มฯ เป็น Bullish เลือก KBANK กลับมาเป็น Top pick คู่กับ SCB”บล.โนมูระ พัฒนสินระบุ

ด้านบล.บัวหลวง มอง 3 แบงก์ใหญ่กำไรดีกว่าที่คาด จึงปรับประมาณการกำไรปี 2564 ให้กับ BBL และ KBANK ที่มีรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงกว่าคาด แนวโน้มไตรมาสที่ 4 เติบโตดี นอกจากนี้ KBANK ยังมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าคาด ส่วน SCB กำไรก็ดีเกินคาดจากการตั้งสำรองต่ำกว่าคาด แนวโน้มไตรมาสที่ 4 เติบโตดี แต่ยังคงประมาณการกำไรปีนี้ตามเดิม

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ปรับประมาณการของ BBL ตั้งแต่ปี 2564 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 15.6% ภายใต้ประมาณการใหม่คาดปีนี้จะมีกำไรสุทธิ 28,178 ล้านบาท โต 64% จากปีก่อนและโตต่อ 17.7% ในปี 2565 สะท้อนผลงานไตรมาสที่ 3 ที่ดีเกินคาด รวม 9 เดือนคิดเป็น 76% ของประมาณการเดิมทั้งปี และดีกว่าที่คาด

แนวโน้มไตรมาส 4 จะโตต่อจากไตรมาสที่ 3 คาดพอร์ตสินเชื่อในประเทศเร่งตัวขึ้นตามเศรษฐกิจ และเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการขายประกัน จะหนุนรายได้ค่าธรรมเนียมให้กลับมาโต รวมถึงการตั้งสำรองจะเริ่มผ่อนคลายลง หลังระดับ NPLs อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และมีระดับสำรองถึง 198.9% สูงที่สุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่

” มอง BBL มีแรงหนุนจากผลงานที่ฟื้นตัวได้ดี มีจุดเด่นที่พอร์ตสินเชื่อมีความเสี่ยงต่ำกว่าแบงก์ใหญ่รายอื่น เนื่องจากมีลูกหนี้รายย่อยและ SME ไม่สูงนัก เป็นแบงก์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และราคาซื้อขายที่ไม่แพง เพียง 0.5 เท่าของมูลค่าหุ้นทางบัญชี(P/BV) ยังมี Upside จากมูลค่าเพิ่มฐานใหม่ปี 2565 ที่ 155 บาท จึงคงแนะนำซื้อ”บล.หยวนต้าระบุ

นอกจากนี้ยังคงมอง KBANK เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม กำไรดีกว่าคาด หลังตั้งสำรองเพิ่มขึ้นไม่มากและรายได้ดอกเบี้ยดี  ทิศทางการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 และการลงทุนใหม่ด้านเทคโนโลยี ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 27.2% จากมูลค่าฟื้นฐานปีนี้ที่ 180 บาท

บล.ไทยพาณิชย์วิเคราะห์ BBL กำไรดีเกินคาด  เพราะรายได้ดอกเบี้ยและมิใช่ดอกเบี้ย ส่วน KBANK กำไรสูงกว่าคาดเล็กน้อย และ LHFG กำไรดีเกินคาด เพราะรายได้เงินปันผลสูงกว่าคาด

บล.กรุงศรีวิเคราะห์กลุ่มแบงก์ ไม่รวมธนาคารกรุงศรี พบกำไรดีกว่าคาดการณ์ 4% ที่ 3 หมื่นล้านบาท และสูงกว่าตลาดคาด 11% ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท โดย TTB และ SCB ดีกว่าคาด แต่ KTB อ่อนแอกว่าคาด โมเมนตัมกำไรยังอ่อนแรงจากไตรมาสที่ 2 เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ แต่ยังคงเติบโตแข็งแกร่งจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากผลการดำเนินงานหลักฟื้นตัว และการตั้งสำรองกลับสู่ระดับปกติ กำไรรวมของกลุ่ม 9 เดือน คิดเป็น 78% ของคาดการณ์

“เราคาดว่ากลุ่มมีกำไรจากการดำเนินงานหลักฟื้นตัวพร้อมกับเศรษฐกิจหลังการเปิดประเทศ เราคงให้น้ำหนักกลุ่มธนาคารมากกว่าตลาด โดยมี KBANK และ TTB เป็นหุ้นเด่น ส่วน BBL แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 136 บาท”บล.กรุงศรีระบุ

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ยังคงมอง KBANK เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม กำไรดีกว่าคาด หลังตั้งสำรองเพิ่มขึ้นไม่มากและรายได้ดอกเบี้ยดี จากทิศทางการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 และการลงทุนใหม่ด้านเทคโนโลยีขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 27.2% จากมูลค่าฟื้นฐานปีนี้ที่ 180 บาท ส่วน SCB ลดน้ำหนักเป็น”ถือ” ราคาเป้าหมาย 135 บาท เต็มมูลค่า หลังจากราคาพุ่งขึ้น 42% ดีกว่าตลาด 29% ซื้อขายที่ P/E ของปี 2565 ที่ 11 เท่า ชอบ KBANK มากกว่า เทรดที่ P/E 8.7 เท่า และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 170 บาท บน P/BV ปีนี้ที่ 0.85 เท่า และ ROE 9.3% จึงเป็นหุ้น Top pick

” SCB กำไรดีกว่าคาด เราเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 2564-2565 ขึ้น 4-6% หลังจากสมมุติฐานต้นทุนเครดิตที่ลดลง และคาดรายได้จะฟื้นตัว 31% ในปีนี้ แล้วเติบโต 7-8% ต่อปี ในปี 2565-2566 คาด ROE จะดีขึ้นจาก 6.7% ในปีก่อน เป็น 8.4-8.7%ในปี 2564-2566 คาดค่าธรรมเนียมจากประกันและการบริหารความมั่งคั่งจะสนับสนุนรายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า ก่อนที่ธนาคารจะสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและ ROE สูงได้