PTTGC ชู 3กลยุทธ์ มุ่งสู่เป้าลดปล่อยคาร์บอนเหลือศูนย์ใน 30 ปี

HoonSmart.com>> “พีทีที โกลบอล เคมิคอล” มุ่งสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ ด้วยเป้าหมายแรก ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20% ภายในปี 73 ก่อนจะเหลือูศูนย์ในปี 93 วางเงินลงทุน 30 ปีนี้ ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ และเงินลงทุนอีก 1.7 หมื่นล้านเหรียญ ใช้ปรับโครงสร้างธุรกิจ รุกธุรกิจและผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ คาดปี 73 สัดส่วนเพิ่มแตะ 35% จ่อซื้อกิจการใหม่ๆพร้อมวาง 3 กลยุทธ์มุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนศูนย์ ปรับปรุงกระบวนการผลิต-รุกธุรกิจคาร์บอนต่ำ-นำเทคโนโลยีมาเสริม ช่วยดักจับคาร์บอน

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งงานแผนและกลยุทธ์ เพื่อจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเป้าหมายในระยะกลางกรอบระยะเวลา 10 ปีนี้ (2564-2573) ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 20% ภายในปี 2573 ปกติบริษัทจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 7-8 ล้านตันต่อปี โดยคาดว่าปี 2568 จะเป็นปีที่มีการปล่อยสูงที่สุดตามแผนการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะปล่อยก๊าซประมาณ 9.7 ล้านตัน หลังจากนั้นจะเริ่มมีปริมาณการปล่อยที่ลดลง

บริษัทมี 3 กลยุทธ์ในการทำให้ตามเป้าหมาย 1.การเพิ่มประสิทธิภาพในทุกกระบวนการผลิต และนำเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ เข้ามาเสริมประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อลดการใช้ทรัพยากรและพลังาน รวมถึงการนำนวัตกรรมใหม่ๆ หรือเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำรูปแบบใหม่เข้ามาเสริมเพิ่มเติม อีกทั้งแนวคิดการนำพลังงานสะอาดอื่นๆมาใช้ในกระบวนการผลิต

2.การปรับโครงการธุรกิจ โดยการลงทุนปรับเปลี่ยนพอร์ตธุรกิจ มุ่งสู่ธุรกิจและผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ อาทิ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษมูลค่าสูง ธุรกิจเกี่ยวกับชีวภาพ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุหมุนเวียน โดยมีเป้าหมายในปี 2573 สัดส่วนธุรกิจดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 35% และมากกว่า 35% ขึ้นไปในอนาคต จากปัจจุบันอยู่ที่ 3% ส่วนธุรกิจเดิมก็ยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อเนื่อง ในอนาคตคาดว่าจะมีการซื้อกิจการเข้ามาต่อเนื่อง แต่ในอนาคตอันใกล้คงยังไม่มีความร่วมมือที่มีขนาดใหญ่ เหมือนกับ Allnex

3.การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการดักจับคาร์บอน (Cabon Capture) โดยบริษัทไดมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อนำมาช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และได้เริ่มพัฒนานวัตกรรมของตัวเองควบคู่ไปด้วย พร้อมทั้งมองหาการลงทุนในบริษัท Venture Capitals ที่มีเทคโนโลยีสะอาด (Clean Technology) นอกจากนี้บริษัทได้วางแผนร่วมกับกลุ่ม ปตท. และนอกเหนือจากกลุ่ม ปตท. เพื่อร่วมกันทำแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการดักจับคาร์บอนด้วย

ทั้งนี้จากแผนกลยุทธ์ บริษัทตั้งเป้าหมายในปี 2593 ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ โดยวางเงินลงทุนรวมภายใน 30 ปีนี้ ประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งเงินลงทุนสำหรับการปรับสร้างธุรกิจ มุ่งสู่ธุรกิจและผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำไว้ประมาณ 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแหล่งเงินลงทุนจะมาจากเงินสดจากการดำเนินงาน และการกู้ยืมสถาบันการเงินต่างๆ

“เราได้เริ่มทำตามกลยุทธ์ที่วางไว้ จะทำให้ประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานดีขึ้น และยังเป็นการลดต้นทุนอีกด้วย คาดว่าในอีก 5-6 ปีข้างหน้า จะมีการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 4% ทุกๆปี ส่วนแนวโน้มมาร์จิ้นของโรงกลั่นในปี 2565 คาดว่าจะดีขึ้น ด้านสเปรดปิโตรเคมี ก็ยังสมดุลกัน เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ก็มีทั้งขึ้นและลง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง เราได้บริหารความเสี่ยงเป็นอย่างดี  คาดว่าในปี 2564 จะไม่เกิดผลขาดทุนสต็อกแน่นอน โดยส่วนใหญ่เราใช้ก๊าซในการผลิต ส่วนน้ำมันดิบใช้แค่บางส่วน” ดร.คงกระพัน กล่าวทิ้งท้าย