ดีลนี้ WIN WIN กัลฟ์ฯซื้อน้ำผลิตไฟฟ้าจากอีสท์วอเตอร์ นาน 25 ปี การันตีคุณภาพ และปริมาณไม่ขาด เพิ่มอัตราผลตอบแทนการลงทุนโรงไฟฟ้าที่ระยองเป็น 25-28% ส่วน EASTW ผลิตเยอะ ขายลูกค้ารายอื่นเพิ่ม สร้างรายได้มั่นคงระยะยาว
บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรือ อีสท์ วอเตอร์ (EASTW) ลงนามในสัญญาซื้อขายน้ำอุตสาหกรรมกับ บริษัท กัลฟ์ พีดี (GPD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เพื่อส่งมอบน้ำให้กับโรงไฟฟ้ากัลฟ์ พีดี ในจังหวัดระยอง อายุสัญญา 25 ปี
นางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ GULF เปิดเผยว่า การทำสัญญาซื้อขายน้ำในครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกของบริษัทในการต่อยอดโมเดลจากธุรกิจเดิม ที่ผ่านมาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแต่ละแห่ง บริษัทจะลงทุนก่อสร้างบ่อน้ำที่นำมาผลิตกระแสไฟฟ้าเอง สำหรับโครงการโรงไฟฟ้า GPD ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา บริษัทให้ EASTW ส่งน้ำอุตสาหกรรมมาใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า ขนาดกำลังผลิต 2,500 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ระยอง 2 ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR)เป็นประมาณ 25-28%
“EASTW มีศักยภาพในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เป็นการการันตีในเรื่องคุณภาพน้ำและบริการ ในราคาที่กำหนดแน่นอน คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่เราต้องลงทุนก่อสร้างบ่อน้ำเอง และในแต่ละปียังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาด้วย “นางพรทิพากล่าว
ที่สำคัญกัลฟ์เน้นการพัฒนาธุรกิจด้านการผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า ความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำเป็นปัจจัยหนึ่งที่ให้ความสำคัญ จึงจำเป็นต้องมีแผนรองรับการจัดหาน้ำในระยะยาวให้เพียงพอกับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นตามแผนพัฒนาในอนาคต
นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) เปิดเผยว่า การก่อสร้างระบบผลิตน้ำแบบศูนย์รวมภายในพื้นที่ EEC คาดว่ามีกำลังการผลิตได้ถึง 100,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ทำให้บริษัทมีโอกาสรับงานลูกค้าอุตสาหกรรมรายอื่นๆได้เพิ่มขึ้น นอกจากจะส่งมอบน้ำ 60,000 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ให้กัลฟ์ฯ ซึ่งจะทยอยได้รับรายได้เข้ามาทั้งหมดประมาณ 6,000 ล้านบาทตลอดอายุสัญญา 25 ปี นอกจากนี้ในช่วงปลายเดือน ส.ค.-ต้นเดือน ก.ย.นี้ บริษัทเตรียมเซ็นสัญญาขายน้ำให้กับนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ปริมาณ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายน้ำอุตสาหกรรมเป็น 20% ภายในปี 2563 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเกือบ 10% ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่ามีรายได้ใกล้เคียงกับปี ก่อนที่จำนวน 4,300 ล้านบาท เนื่องจากฝนตกชุกทำให้มีความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ให้บริการของบริษัทไม่มากเท่าปีก่อน เพราะผู้ใช้มีการเก็บสำรองน้ำไว้แล้ว ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังม่ันใจว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก รวมทั้งรักษาอัตรากำไรสุทธิให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 28%