บล.คิงส์ฟอร์ดวางแนวรับ 1,630 จุด แนวต้าน 1,650 จุด

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ดคาดตลาดหุ้นได้แรงหนุนเปิดเศรษฐกิจ ดัชนีทดสอบแนวต้าน 1,650 จุด แนวรับ 1,630 จุด แนะซื้อหุ้นกลุ่ม Reopening หุ้นเด่นวันนี้ซื้อเก็งกำไร MFEC ซื้อ SYNEX

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ได้แรงหนุนการเปิดเศรษฐกิจวางแนวรับที่ 1,630 จุด แนวต้าน 1,650 จุด แนะนำซื้อกลุ่ม Reopening เช่น KBANK,SCB / AAV,BTS / CPALL, CPN, CRC / AMATA, WHA / BH, BDMS กลุ่มโรงกลั่น TOP, BCP และรับเหมาก่อสร้าง CK,STEC,ITD

ดัชนี SET สัปดาห์ที่ผ่านมาทรงตัว -0.06% ต่างชาติซื้อ 9.42 พันล้านบาท สถาบันขาย 9.59 พันล้านบาท พอร์ตโบรกซื้อ 1.67 พันล้านบาท ได้แรงหนุนหลังนายก ฯ แถลงเตรียมเปิดเศรษฐกิจในวันที่ 1 พ.ย. ,เปิดท่องเที่ยวนำร่อง 17 จังหวัดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มเสี่ยงน้อย 5 ประเทศที่ฉีดวัคซีนครบแล้วไม่ต้องกักตัว และลดเวลาเคอร์ฟิวส์ลง แต่สถาบันเริ่มขายทำกำไร ในหุ้นกลุ่ม Reopening ได้ปรับตัวขึ้นตั้งแต่เดือนก่อน และอยู่ระหว่างรอรายงานกำไร Q3/64 ของกลุ่มธนาคาร โดย Consensus คาด +32% YoY, -23% QoQจากสินเชื่อ Q3/64 ชะลอตัว ,รายได้มิใช่ดอกเบี้ยลดลง และมีผลขาดทุนตีมูลค่าเงินลงทุน แต่ได้แรงหนุนจากสำรอง ECL มีแนวโน้มลดลง โดยแนะนำทยอยซื้อ KBANK,SCB,BBL,TISCO คาดกำไร Q4 เริ่มฟื้นตัว

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ MFEC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.50 บาท) รับประโยชน์จากเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเข้าสู่ยุค Digital ด้วยธุรกิจของ MFEC ที่เป็นผู้ประกอบการที่ทำทั้ง SI, Cybersecurity, IT Consultant, Cloud

ช่วง 1H64 รายงานกำไรสุทธิ 95 ล้านบาท +32%YoY ผลกระทบ COVID-19 อาจทำให้การประมูลงานมีความล่าช้าบ้าง แต่แนวโน้ม 2H64 คาดรับรู้รายได้และกำไรจะเติบโตขึ้นจากครึ่งปีแรกจากการส่งมอบงานมากขึ้นหลังคลาย Lockdown โดย ณ สิ้น 2Q64 มี Backlog อยู่ราว 5.5 พันล้านบาท และจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องไปยังปีหน้า นอกจากนี้ยังมี Story ในการผลักดันบริษัทร่วมเข้าตลาด ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายกันที่ PER 17 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ Peer ที่ซื้อขายราว 25-30 เท่า

หุ้น SYNEX (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 30.60 บาท) ปัจจัยบวกจาก iPhone13 ได้เสียงตอบรับที่ดี ภาพรวมยอดขายคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนยังได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรม IT (รวมถึงงานคอมพิวเตอร์กราฟิก/การ Streaming/การขุดเหรียญคริปโตฯ) ขณะที่ยอดขายฝั่งมือถือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้แรงหนุนจากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี 4G เป็น 5G

นอกจากนี้บริษัทยัง มีแผนที่จะเปิดตัว House Brand ในสินค้า 3 กลุ่มใหญ่ (กลุ่มMobile/Accessories, กลุ่มอุปกรณ์ต่อพ่วงกลุ่มGaming, อุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับคอมพิวเตอร์) และการเข้าไปรุกทำตลาด IT มือสอง(SWOPMART) ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี64 และ ปี65 จะขยายต่อเนื่องจากปี 63 ที่ 0.76 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.93 บาท/หุ้น, และ 1.13 บาท/หุ้น ตามลำดับ