MTC-TIDLOR โต เมินสคบ.คุมลิสซิ่ง แบงก์กสิกรไทยถือหุ้น HENG 10%

HoonSmart.com>>หยุดตื่นตระหนก! สคบ.จ่อคุมสัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่ ห้ามชาร์จดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี นักวิเคราะห์คาดบริษัทที่ได้รับผลกระทบเต็มเป้า NCAP-TK-S11-AMANAH  ด้าน ” เมืองไทย แคปปิตอล” เผยปล่อยเช่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์แค่ 3% ของพอร์ต “เงินติดล้อ”มีไม่เกิน 0.5% เดินหน้าเติบโตสบาย บล.โนมูระฯคาดแบงก์ไม่กระเทือน ธนาคารกสิกรไทยปลุกความมั่นใจบริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล (HENG) ซื้อหุ้น 10% ที่ราคา 1.95 บาท

วันที่ 14 ต.ค.2564 หุ้นเช่าซื้อร่วงระนาว นำโดย NCAP ปิดที่ 9.35 บาทร่วง -0.75 บาทหรือ -7.43% TK ปิดที่ 8.85 บาทติดลบ 0.20 บาทหรือ-2.21% MTC ปิดที่ 60.50 บาทลดลง 0.75 บาทหรือ -1.22% SAWAD ปิดที่ 63.75 บาทลดลง 0.50 บาทหรือ -0.78% ได้รับผลกระทบจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เตรียมออกประกาศว่าด้วยสัญญาให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ รถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลการเกษตร ให้เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา และจะควบคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี และห้ามเก็บหนี้ส่วนที่เหลือจากผู้เช่าซื้อใช้สิทธิเลิกสัญญาด้วยการส่งมอบรถ (คืนรถจบหนี้)

ขณะที่ตลาดโดยรวมพยายามบวกต่อ แต่เจอแรงขายกดดัชนีปิดที่ 1,640.97 จุด ลดลง 2.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 84,963.95 ล้านบาท ด้านนักลงทุนต่างชาติซื้อต่อ 1,152 ล้านบาท พอร์ตบล.ซื้อ 829 ล้านบาทและนักลงทุนไทยซื้อ 347 ล้านบาท ส่วนสถาบันไทยขาย 2,339 ล้านบาท

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทเมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทเน้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่มีหลักประกัน มีสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์น้อยมากเพียง 3%ของพอร์ต เพราะเพิ่งเริ่มทำมาไม่ถึง 1 ปี กรณีสคบ.จึงมีผลต่อบริษัทน้อยมากและไม่มีนัยสำคัญต่อภาพรวม

นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ (TIDLOR) กล่าวว่า บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อปล่อยใหม่ในกลุ่มรถยนต์ จักรยานยนต์ รถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลการเกษตรไม่เกิน 0.5% ของพอร์ตสินเชื่อปล่อยใหม่รายเดือน ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ยังคงเติบโตน่าพอใจ ตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมาพบว่าความต้องการสินเชื่อและการซื้อประกันภัยปรับตัวดีขึ้นเข้าใกล้ระดับปกติ

“รายได้รวมยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นทุนทางการเงินลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากนำบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัท ทริสเรทติ้ง ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทฯ เป็นระดับ A จากเดิมที่ระดับ A- ด้วยแนวโน้มคงที่”นายปิยะศักดิ์กล่าว

ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายสาขา คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะเปิดสาขาใหม่รวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 200 สาขา และมีสาขาทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 1,300 สาขา  จากในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาเปิดไปแล้ว 184 สาขา และมีสาขาทั่วประเทศอยู่ที่ 1,260 สาขา

นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล (HENG) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ในภาคเหนือภายใต้แบรนด์ ‘เฮงลิสซิ่ง’ เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ได้เสนอซื้อหุ้นเดิมของ HENG จากผู้ถือหุ้นกลุ่มทวีเฮงและกลุ่มพัฒนสิน ผ่านบิ๊กล็อต จำนวน 381 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 10% ในราคาเดียวกับที่เสนอขาย IPO ที่ 1.95 บาทต่อหุ้น ในวันที่ HENG นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 19 ต.ค.นี้  ทำให้ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นกลุ่มทวีเฮง จะจำหน่ายหุ้นเดิมอีกจำนวน 186,210,000 หุ้น คิดเป็น 4.9%  ในราคา IPO  ให้นักลงทุนรายใหญ่จำนวน 9 ราย เพื่อลงทุนระยะยาว โดยมีข้อตกลงจะไม่ขายหุ้นในเวลา 1 ปี

“ธนาคารกสิกรไทยเข้ามาถือหุ้น HENG  สะท้อนถึงความเชื่อมั่นถึงศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ และช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ในการขยายฐานลูกค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า สร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม จะเป็นประโยชนต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุน และสร้างการเติบโตในระยะยาวต่อไป ” นายวิชัย กล่าว

นายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล. กสิกรไทย กล่าวว่า  เกณฑ์ที่ควบคุมเพดานดอกเบี้ยในระดับ 15% ของสคบ. ส่งผลกระทบเชิงลบต่อผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์โดยตรง เนื่องจากปกติคิดดอกเบี้ยอยู่ที่ 24-30% ส่งผลกระทบต่อ NCAP เนื่องจากพอร์ตส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ รวมถึง AMANAH

ส่วนกลุ่มหุ้นที่ปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และมีการขยายพอร์ตมาให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ อย่าง MTC, SAWAD, SAK และAEONTS ก็อาจจะโดนผลกระทบประมาณ 3-4% ของกำไรสุทธิ ขณะที่ TIDLOR ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากพอร์ตเป็นจำนำทะเบียนรถทั้งหมด รวมถึงกลุ่มที่ให้บริการสินเชื่อรถบรรทุก ที่ไม่โดนผลกระทบด้วย

“ถ้าเกณฑ์ดังกล่าวบังคับใช้จริง มองว่าจะเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างสินเชื่อเช่าซื้อครั้งใหญ่ และส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจด้วย เนื่องจากยอดขายจักรยานยนต์ และยอดขายรถยนต์จะลดลง  ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ จำเป็นต้องชดเชยความเสี่ยง โดยการเพิ่มเงินดาวน์ขึ้นประมาณ 30% “นายกรกชกล่าว

สำหรับการลงทุนระยะสั้น 1-2 สัปดาห์ ถ้าผลสรุปออกมาและมีผลกระทบไม่หนักอย่างที่คาดการณ์ไว้ แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น NCAP และ AMANAH ส่วนการลงทุนระยะกลางถึงยาว แนะนำ “SWITCH” เข้าซื้อหุ้นที่ไม่โดนผลกระทบ ได้แก่ TIDLOR และASK

ด้านนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า มาตรการของสคบ.จะกระทบต่อบริษัท TK ,S11 และNCAP ส่วนผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ อาทิ TISCO และKKP โดนผลกระทบจำกัด เพราะคิดอัตราดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำกว่าเกณฑ์ 15%  และผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ อาทิ MTC และSAWAD ก็มีผลกระทบในวงจำกัด เนื่องจากพอร์ตส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ มีสินเชื่อเช่าซื้อในสัดส่วนที่น้อย โดยคาดการณ์กำไรของกลุ่มไฟแนนซ์ในไตรมาส 3  ยังโดนผลกระทบจากโควิด-19 และในไตรมาส 4 ก็อาจจะเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้น

การลงทุนยังไม่แนะนำหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปสูงในช่วงก่อนหน้า และยังไม่มีความชัดเจนของการควบคุมเพดานดอกเบี้ย  ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ในตอนนี้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติม จากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น โดยแนะนำกลุ่มธนาคารมีความน่าสนใจมากกว่า ได้แก่ TISCO ซื้อสะสมได้ เนื่องจากจ่ายเงินปันผลดี และจ่ายปันผลครั้งเดียว และ KKP คาดว่าไตรมาส 3 กำไรสุทธิลดลงน้อยที่สุดในกลุ่ม เพราะมีรายได้จากตลาดทุนเข้ามาช่วยชดเชย ทั้งรายได้ดอกเบี้ยที่อ่อนแอและการตั้งสำรองที่สูงขึ้น

บล.โนมูระ พัฒนสินระบุ สัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่มีผลกระทบจำกัดต่อธนาคาร เพราะคิดดอกเบี้ยต่ำกว่าเพดาน แต่อาจได้ sentiment เชิงลบ จากการมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อสูงคือ TISCO (25%ของพอร์ตสินเชื่อรวม),KKP (48%), TTB (25%) แนะ SCB ให้มูลค่าเหมาะสมปีหน้าที่ 150 บาท เป็น Top pick

บล.โนมูระ พัฒนสิน วิเคราะห์สัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่โดย มีมุมมอง Neutral ต่อข่าวดังกล่าว เพราะปัจจุบันธนาคาร TISCO, KKP,TTB คิดอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อสำหรับรถยนต์ใหม่อยู่ที่ราว 3-5% ต่อปี และรถยนต์มือสองอยู่ที่ราว 6- 8% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าเพดานใหม่กำหนดไว้ที่ 15% ต่อปี และมีผลกระทบจำกัด เพราะ