BGRIM ปรับเป้ารายได้ปีนี้โตเกิน 20%

BGRIM เพิ่มเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโตมากกว่า 20% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 15-20% หลังโรงไฟฟ้าใหม่ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตามแผน และการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเพิ่ม ย้ำย้าย 2 โรงไฟฟ้าใหม่ไปจ.อ่างทองคืบหน้าไปตามแผน

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปีนี้เป็นเติบโตมากกว่า 20% เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 3.19 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 15-20% เนื่องจากในช่วงที่เหลือของปีบริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่จะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ตามแผน ได้แก่ โรงไฟฟ้า ABPR5 กำลังผลิต 133 MW , โครงการไฟฟ้าโซล่าร์เซลล์ของส่วนราชการ (Solar 2017) กำลังผลิต 31 MW และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำแจ” กำลังผลิต 15 MW

นอกจากนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าบี.กริม ยันฮี โซล่าร์ พาวเวอร์ กำลังการผลิต 57 MW หลังจากเข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็น 100% รวมทั้งรายได้จากการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าใหม่ในต่างประเทศกำลังการผลิตหลายร้อยเมกะวัตต์ที่คาดว่าจะปิดดีลได้ภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในปีนี้เพิ่มเป็นมากกว่า 2,091 MW เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ที่กำลังผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 1,912 MW และเพิ่มจากช่วงงต้นปีที่มีกำลังผลิตไฟฟ้า 1,779 MW

“รายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่า 20% ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้เราจะสามารถปิดดีลการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าในต่างประเทศได้สำเร็จ ซึ่งรวมแล้วมีกำลังผลิตไฟฟ้าหลายร้อยเมกะวัตต์”นางปรียนาถระบุ

ปรียนาถ สุนทรวาทะ

นางปรียานาถ กล่าวว่า สำหรับปีหน้าจะมีโรงไฟฟ้าที่ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบอีก 848 MW ได้แก่ โรงไฟฟ้า ABP1 Extension กำลังผลิต 166 MW , Interchem กำลังผลิต 5 MW และโรงไฟฟ้าโซล่าร์เซลล์ที่เวียดนาม 2 โครงการ ซึ่งจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในวันที่ 30 มิ.ย.2562 แบ่งเป็นโครงการแรก กำลังการผลิต 420 MW และโครงการที่สอง กำลังการผลิต 257 MW นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซในเวียดนาม กำลังการผลิตหลายร้อนเมกะวัตต์เช่นกัน

ส่วนการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เกาหลีใต้กับทาง KEPCO กำลังการผลิต 100 MW คาดว่จะจ่ายไฟฟ้าได้ใน 1-2 ปีข้างหน้า

สำหรับความคืบหน้าการย้ายโรงไฟฟ้า BGPR1 และ BGPR2 กำลังการผลิต 240 MW นั้น ได้มีการเซ็นเอ็มโอยูกับนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มสิงห์ที่จ.อ่างทองไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจารายละเอียดในข้อสัญญา และการจัดทำอีไอเอ โดยมั่นใจว่าจะก่อสร้างและจ่ายไฟฟ้าได้ทันตามกำหนดในช่วงกลางปี 2564 แน่นอน

นางปรียนาถ กล่าวว่า ในส่วนการต่อสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า SPP ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำหรับโรงไฟฟ้า SPP ที่จะสิ้นสุดสัญญา ในช่วงปี 2560-2568 นั้น ทาง BGRIM ยอมรับได้ทั้งสองแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการต่ออายุสัญญา 25 ปี หรือการต่อสัญญา 10 ปี ซึ่งทำให้บริษัทลงทุนเพิ่มเพียง 300-400 ล้านบาท เนื่องจากหากบริษัทไม่ขายไฟฟ้าให้กฟผ.ก็สามารถขายไฟฟ้าให้ลูกค้าเอกชนในนิคมอุตสาหกรรมได้อยู่แล้ว โดยทราบว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งหน้าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้

นางปรียนาถ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ BGRIM มีแผนออกหุ้นกู้สำหรับรีไฟแนนซ์หนี้เดิม และใช้สำหรับการลงทุนใหม่ประมาณ 1-1.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดในมือกว่า 1 หมื่นล้านบาท