บล.คิงส์ฟอร์ดคาดดัชนีทดสอบ 1,660 จุด แนะเก็งกำไร SPA-BDMS

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ ได้แรงหนุนเปิดเศรษฐกิจ บาทแข็งค่า ต่างชาติเริ่มซื้อ หนุนดัชนีมีลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,660 จุด แนวรับ 1,630 – 1,635 จุด ติดตามประชุมศบค. ด้าน TISCO คาดรายงานกำไร Q3/64 วันนี้คาดลดลงเหลือ 1.56 พันล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ดัชนี SET ได้แรงหนุนการเปิดเศรษฐกิจ, เงินบาทเริ่มแข็งค่าและเริ่มมีแรงซื้อจากต่างประเทศ วางแนวรับดัชนีที่ 1,630 – 1,635 จุด คาดมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,660 จุดได้ แนะนำซื้อ SCB, KBANK/ AOT, CENTEL / CPALL, CPN /AMATA, WHA / BH, BDMS / VGI

สำหรับดัชนี SET วันอังคารปิด +0.62% ปริมาณการซื้อขาย 9.3 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อ 5 พันล้านบาท พอร์ตโบรกซื้อ 99 ล้านบาท สถาบันขาย 2.47 พันล้านบาท ได้แรงหนุนจากกลุ่มขนส่ง +3.72% นำโดย AOT +5.45% , กลุ่ม รพ. +1.64% และกลุ่มอสังหา +1.59% นำโดย AMATA, WHA หลังนายก ฯ แถลงแผนการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. นี้

วันนี้ ศบค.จะประชุมพิจารณาปรับโซนพื้นที่ควบคุมสีแดง 29 จังหวัด, ลดเวลาเคอร์ฟิวส์เป็น 23.00 – 3.00 น. จะเริ่ม 16 – 31 ต.ค. และการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มเสี่ยงน้อย 10 ประเทศได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วไม่ต้องกักตัว ส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจใน Q4 นี้ วันนี้ติดตาม TISCO จะรายงานกำไร Q3/64Consensus คาดที่ 1.56 พัน ลบ. -6% QoQ, -3% YoY

สำหรับแนะนำวันนี้ ได้แก่ SPA (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.25 บาท) ได้ประโยชน์จากการมาตรการคลายล็อกดาวน์ 1 ต.ค.ให้ร้านนวด สปา กลับมาเปิดดำเนินการตามปกติ โดยให้บริการผ่านการนัดหมายและจำกัดเวลาใช้บริการตามเงื่อนไข รวมถึงต้องมีหลักฐานว่าได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์หรือมีหลักฐานแสดงผลตรวจเชื้อ COVID-19 จากคำสั่งดังกล่าวทำให้ SPA มีแนวโน้มกลับมาเปิดสาขาเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ให้บริการได้เฉพาะนวดเท้าทำให้ไม่คุ้มทุนในการเปิดให้บริการสาขา

ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันมีทิศทางลดลง รวมถึงแผนการลดวันกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ น่าจะช่วยหนุนให้อัตราการเข้าใช้บริการของลูกค้าคนไทยและต่างประเทศทยอยฟื้นตัว จนสามารถกลับมาเปิดให้บริการครบทั้ง 65 สาขา

หุ้น BDMS (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 25.25 บาท) คาดแนวโน้มในช่วง 2H64 ยังคงจะเติบโตจากครึ่งปีแรกรับปัจจัยหนุนต่อเนื่องจาก รายได้ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับโรคระบาด Covid-19 และ High Season ของกลุ่มร.พ. โดยในส่วนของรายได้ Covid-19

นอกเหนือจากการรักษาโรคซึ่งจะช่วยหนุน อัตราการครองเตียงในร.พ. แล้ว สามารถแบ่งออกได้เป็นราว 2 ส่วน คือ 1.การตรวจเชื้อ (ประเมินที่ 3,000-6,000 เคส/วัน สร้างรายได้ก่อน 1ส.ค.64 ที่ 2,300 บาท/เคส หลังจากนั้น 1,700 บาท/เคส) 2.การทำ Hospitel มากกว่า 5,000 เตียง (อนุมานเตียงโซนเขียวที่ราคา 5,000 บาท/คืน จะสร้างรายได้ราว 1,900 ลบ. ต่อไตรมาส) อนึ่งการ Reopening จะช่วยให้รายได้ผู้ป่วยต่างชาติราว 30% ของรายได้ปกติกลับมาได้เร็วมากขึ้น Outweight ปัจจัยบวกรายได้ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับโรคระบาด Covid-19