บล.คิงส์ฟอร์ดคาดหุ้นเคลื่อนไหวกรอบ 1,625-1,645 จุด แนะ ITEL-TACC

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินตลาดหุ้นช่วงเช้าถูกกดดันจากปัจจัยภายนอก ยังประคองตัวกรอบ 1,625-1,645 จุด แรงหนุนกลุ่มพลังงาน หุ้้น Re-opening รับเตรียมเปิดประเทศ 1 พ.ย.

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาด SET Index ช่วงเช้ามีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก แต่คาดยังสามารถประคองตัวในกรอบ 1,625-1,645 จุด โดยมีแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน และ Re-opening แนะนำ PTT, PTTEP, TOP, BCP / AOT, BA, BTS, BEM / MINT, SPA, ASAP / CPN, CRC / AMATA, WHA / BH, BDMS

ด้านตลาดหุ้นวานนี้ ดัชนี SET ปิด -0.36% เผชิญแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารและค้าปลีก ขณะที่มีแรงซื้อพยุงจากหุ้นกลุ่มพลังงานและสื่อสาร โดยรวมตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ประกอบกับมีวันหยุดกลางสัปดาห์ทำให้มีการขายลดความเสี่ยง ส่วนประเด็นบวกคืนวาน นายกแถลงการณ์เรียกความเชื่อมั่นแผนการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.ด้วยการ เปิดรับท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสและเดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศ โดยมาจากประเทศที่กำหนดให้เป็นประเทศความเสี่ยงต่ำอย่างน้อย 10 ประเทศ สอดรับกับหลายประเทศเริ่มอนุญาติให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศ ช่วยหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจช่วงท้ายปี

ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.72%, S&P500 -0.69%, Nasdaq -0.64% นำโดยกลุ่มบริการสื่อสาร -1.45%, สาธารณูปโภค -1.34% ขณะที่กลุ่มอสังหา, วัสดุปรับตัวขึ้น นักลงทุนรอการเริ่มรายงานผลประกอบการ บจ. Q3/64 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ใหญ่ เช่น เจ.พี.มอร์แกน, แบงก์ออฟอเมริกา, มอร์แกน สแตนลีย์ ด้านตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.052% เผชิญแรงกดดันจากลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการ สาธารณูปโภค และค้าปลีก แต่ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มที่อิงกับสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง กลุ่มเหมืองแร่ น้ำมัน และยานยนต์

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ITEL (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.75 บาท) แนวโน้มปี 64 บริษัทตั้งเป้ารายได้ขยายตัวขึ้นจากปีก่อน +20% แตะ 2.8 พันล้านบาท จากการขยายฐานลูกค้าและประมูลงานใหม่ แม้ 1H64 รับรูรายได้เข้ามา 1 พันล้านบาท แต่ใน 2H64 คาดการรับรู้รายได้จะเร่งตัวขึ้นจาก Backlog ที่มีในมือ 3.2 พันล้านบาทจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังราว 900 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา รอเข้าประมูล และรอผลการประมูลรวมกว่า 2.5 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้เข้ามาภายในปีนี้ราว 30% นอกจากนี้ยังมีแผนนำศูนย์ อินเตอร์ลิ้งค์ ดาต้า เซ็นเตอร์ ขายเข้ากอง REIT มูลค่าขั้นต่ำอยู่ที่ราว 700 ล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการและเตรียมยื่น Filing คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในครึ่งปีหลังนี้ และจะเดินการขายได้ใน 4Q64-1Q65

หุ้น TACC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.85 บาท) สถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ที่ดีขึ้นทั้งในด้านผู้ติดเชื้อใหม่ และ จำนวนผู้ได้รับวัคซีน จะส่งผลให้การขายของหน้าร้าน 7-11(All Cafe) ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ทาง TACC ยังมีโอกาสที่จะขยายปริมาณการขายไปยังลาว/กัมพูชาตาม7-11 (ซึ่งในกัมพูชามีการเริ่มเปิดสาขาแรกที่พนมเปญแล้ว) และสาขาของ Lotus’s go fresh (ผ่านทาง Jungle Cafe)

สำหรับประเด็นกัญชง ทางบริษัทได้ร่วมลงทุนกับ บริษัท ไทยคานาเทค อินโนเวชั่น จำกัด คาดว่าจะสามารถส่งผลิตภัณฑ์เข้าตลาดได้ในปีหน้า ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี64 และ ปี65 ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 63 ที่ 0.31 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.35 บาท/หุ้น, และ 0.41 บาท/หุ้น ตามลำดับ