GLORY เคาะราคา IPO 2.80 บาท เปิดจองซื้อ 12,14-15 ต.ค.นี้

HoonSmart.com>> “รุ่งเรืองตลอดไป” Tech Startup รายแรกที่พัฒนาวรรณกรรมออนไลน์ พร้อมเสนอขาย  70 ล้านหุ้น  ราคาหุ้นละ 2.80 บาท เปิดจองให้ซื้อ 12,14-15 ต.ค. คาดเข้าเทรดตลาด เอ็ม เอ ไอ  25 ต.ค.นี้ นำเงินระดมทุนพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล-ซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมเพิ่ม รองรับการขยายตัวทั้งในและต่างประเทศ ในทุกกลุ่มเป้าหมาย นักวิเคราะห์คาดกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่วยลด P/E ลง ทำให้หุ้นน่าสนใจมากขึ้น

นางจารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป (GLORY) เปิดเผยว่า GLORY เตรียมเสนอขายเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 70 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.5 บาทต่อหุ้น ได้กำหนดราคาเสนอขายที่ 2.80 บาทต่อหุ้น และเตรียมเปิดให้จองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 12,14-15 ต.ค.นี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญในครั้งนี้ด้วย คาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 25 ต.ค. 2564

“เชื่อว่า หุ้น GLORY จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นบริษัท Tech Startup ที่พัฒนา Platform ออนไลน์ โดยมีระบบการบริหารจัดการที่ครบทุกมิติ ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงสื่อบันเทิงประเภทงานวรรณกรรม นิยาย และหนังสือได้ง่ายและสะดวก อีกทั้งธุรกิจยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตทุกๆปี ส่วนด้านราคาเสนอขายที่ 2.80 บาทต่อหุ้น เป็นระดับราคาที่เหมาะสม ซึ่งคู่แข่งในตลาดหลักทรัพย์ของไทยยังไม่มี ทำให้ต้องเทียบกับคู่แข่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จีน มี P/E อยู่ที่ 82 เท่า” นางจารีรัตน์ กล่าว

ด้านนายจรัญพัฒณ์ บุญยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป (GLORY) เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนหลังหักค่าใช้จ่ายจำนวน 189 ล้านบาท บริษัทฯ จะนำไปขยายการลงทุนเพื่อพัฒนา Platform รองรับการ Scale Up ไปยังต่างประเทศ รวมถึงเตรียมแปลลิขสิทธิ์วรรณกรรมไทยที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย เป็น Prototype ส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อเปิดตลาดวรรณกรรมไทยออนไลน์ ให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังพัฒนา Platform ใหม่ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าผู้หญิงโดยเฉพาะ จากปัจจุบันที่สัดส่วนรายได้หลักมาจากผู้อ่านผู้ชาย

​ขณะที่เงินจากการระดมทุนอีกส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมจากต่างประเทศอีกประมาณ 70 กว่าเรื่อง จากเดิมที่มีวรรณกรรมต่างประเทศอยู่ประมาณ 100 กว่าเรื่อง เพื่อเพิ่มจำนวนสินค้ารองรับแนวทางการ Scale Up Platform และช่องทางการจัดจำหน่ายวรรณกรรม ให้มีลิขสิทธิ์ครอบคลุมเพื่อตอบสนองลูกค้าเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมสร้างความมั่นคงทางธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ส่วนแนวโน้มธุรกิจในปี 2564 คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 19.40% ใกล้เคียงกับการเติบโตของครึ่งแรกที่มีรายได้จากการจำหน่ายและบริการอยู่ที่ 45.43 ล้านบาท เติบโต 19.40% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.40 ล้านบาท ซึ่งจะเติบโตตามทิศทางของอุตสาหกรรมการอ่านวรรณกรรมที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 14% ส่วนผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2561-2563) บริษัทฯมีรายได้จากการจำหน่ายและบริการอยู่ที่ 42.52 ล้านบาท , 73.49 ล้านบาท และ 78.42 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี ที่ 35.81% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.44 ล้านบาท , 14.05 ล้านบาท และ 13.99 ล้านบาท ตามลำดับ

“จากผลประกอบการที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ได้มีผลกระทบต่อเราเลย และยังทำให้ลูกค้าหันมาอ่านวรรณกรรมเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนแผนการสร้างการเติบโต หลังจากได้เงินระดมทุน เราจะเริ่มทยอยทำตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564  มั่นในว่าในปี 2565 จะมีรายได้โตประมาณ 20-40% ซึ่งโตจากการซื้อวรรณกรรมใหม่เพิ่มเข้ามา รองรับลูกค้าทุกกลุ่ม ,ขยายตลาดต่างประเทศ และเจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิง ส่วนปี 2566 จะรักษาการเติบโตให้อยู่ในระดับที่มากกว่า 10-20% ขึ้นไป” นายจรัญพัฒณ์ กล่าว

ด้านนายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ด้วยจุดเด่นด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการดิจิทัลเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม (Digital Technology Platforms) และการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของวงการหนังสือในตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) เป็นสิ่งที่การันตีถึงศักยภาพ และความน่าเชื่อถือทางธุรกิจในการเป็นผู้พัฒนาและให้บริการด้านดิจิทัลเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ส่งผลให้ GLORY เป็นที่ยอมรับในแวดวงของกลุ่มธุรกิจ Tech Startup ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

“จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ สามารถต่อยอดขยายธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลและสารสนเทศ รวมถึงการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการลงทุนและรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น และสามารถก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการ Tech Startup ที่พัฒนาแพลตฟอร์มด้านวรรณกรรม สำหรับ อ่าน-เขียน นิยาย การ์ตูน และ หนังสือ ผ่านช่องทางดิจิทัล รายแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ อีกทั้งมองว่าแผนการระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์มชั้นนำสู่ตลาดโลก ดังนั้นโดยส่วนตัวเชื่อว่า หากหุ้น GLORY เปิดเสนอขายหุ้น IPO จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนอย่างแน่นอน” นายสัมฤทธิ์ชัย กล่าว

บล.ฟินันเซียไซรัส มีการวิเคราะห์หุ้น GLORY คาดว่าในปี 2565 บริษัทจะมีกำไรสุทธิประมาณ 31 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดสัดส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E ) ลงมาเหลือประมาณ 24 เท่า และแนวโน้มกำไรยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้หุ้นน่าสนใจมากขึ้น