ทริสคงเครดิต BJC ที่ ‘A+’ ห่วงหนี้สูง

ทริสเรทติ้งคงเครดิต BJC ที่ ‘A+’ ธุรกิจหลากหลาย กระจายไปหลายประเทศมีความแข็งแกร่ง ห่วงแบกหนี้สูง แนวโน้มกำไรและโครงสร้างเงินทุนดีขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้า

บริษัท ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC)ที่ระดับ “A+”ด้วยแนวโน้ม’คงที่’ สะท้อนถึงสถานะการแข่งขันที่แข็งแกร่ง ตลอดจนประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจหลักของบริษัท ผลประกอบการที่ดีและมีเสถียรภาพ รวมถึงความคาดหมายว่าบริษัทน่าจะมีผลประกอบการและโครงสร้างเงินทุนที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดบางประการจากภาระหนี้สินระดับสูง จากการซื้อกิจการ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC)ในปี 2559 โดย ณ เดือนมิ.ย.2561 บริษัทมีเงินกู้รวม 157,453 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ระดับ 59.7%

บริษัทฯมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง สะท้อนถึงความหลากหลายของ 4 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทขวดแก้วและกระป๋องอะลูมิเนียม) ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และธุรกิจสินค้าด้านสุขภาพและทางเทคนิค

นอกจากประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดหลัก บริษัทยังกระจายสินค้าครอบคลุมไปยังประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศเวียดนาม มาเลเซีย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อพิจารณาถึงขนาดยอดขายจำนวนมาก กำลังการผลิตขนาดใหญ่ และการกระจายสินค้าที่ครอบคลุมทั่วเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัทแล้ว ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงความแข็งแกร่งทางธุรกิจไว้ได้

“รายได้และกำไรของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง 6 เดือนแรกของปี 2561 เติบโต 4.5% มาอยู่ที่ 76,093 ล้านบาท หากไม่รวมธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ยอดขายยังคงเติบโตในระดับ 2-3% ต่อปีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย(อีบิทดา)ในช่วง 6 เดือนของปีนี้ประมาณ 10,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% เนื่องจากธุรกิจหลักมีสถานะการแข่งขันที่แข็งแกร่ง ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงาน จะค่อย ๆ ดีขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 13.5% ภายในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากระดับประมาณ 10.8% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561″ทริสระบุ