KTCยอดใช้จ่ายผ่านบัตรปี 64 ติดลบ 1 ถึง 2% Q4 ทุ่ม 300 ลบ.กระตุ้นแลกคะแนน

HoonSmart.com>>KTC ยอมรับโควิดฉุดยอดใช้จ่ายผ่านบัตรปี 2564 ติดลบ 1 ถึง 2% เทียบกับปีก่อน ไตรมาส 4 ทุ่มงบการตลาด 300 ล้านบาท ออกแคมเปญ“KTC มีแต้มต่อ” กระตุ้นยอดใช้จ่ายปลายปีโต 1-2% ตั้งเป้าลูกค้าแลกคะแนน 2,000 ล้านคะแนน

นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” (KTC) ยอมรับว่า การแพร่ระบาดของโควิดและมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ทำให้การใช้จ่ายผ่านบัตรในปี 2564 ติดลบ 1- 2% หรือมียอด 195,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มียอด 197,000 ล้านบาท ส่วนปี 2565 เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ตั้งเป้าบัตรใหม่ 250,000 บัตร ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 8-10%

ส่วนไตรมาส 4 ปี 2564 หลังจากที่รัฐบาลเริ่มผ่านคลายมาตรการต่างๆ การใช้จ่ายของประชาชนน่าจะปรับตัวดีขึ้น ส่งผลการยอดใช้จ่ายผ่านบัตร KTC โต 1-2% หรือมียอดใช้จ่าย 58,000 ล้านบาท ซึ่งเคทีซีได้ออกแคมเปญใหญ่ “KTC มีแต้มต่อ” ด้วยงบประมาณการตลาด 300 ล้านบาท ร่วมกับพันธมิตรมากกว่า 170 ร้านค้า เน้นหมวดร้านอาหารและช้อปปิ้ง ซึ่งเป็นหมวดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงปลายปี

“ปัจจุบัน เคทีซีมีฐานสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีกว่า 2.5 ล้านบัตร มีจำนวนคะแนน KTC FOREVER กว่า 12,000 ล้านคะแนน คาดว่าแคมเปญ “KTC มีแต้มต่อ” จะส่งผลให้จำนวนการแลกคะแนนมากขึ้น 20% หรือ 2,000 ล้านคะแนน” นางพิทยากล่าว

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต KTC กล่าวว่า หมวดร้านอาหารเป็นหมวดที่ให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นหมวดที่สมาชิกนิยมนำคะแนนมาแลกรับสินค้าหรือบริการ โดยตลอดปี 2563 มียอดรวมคะแนนที่สมาชิกนำมาแลกทั้งสิ้นกว่า 1,100 ล้านคะแนน และคาดว่าตลอดแคมเปญนี้จะมีจำนวนคะแนนที่สมาชิกนำมาแลกมากถึงกว่า 500 ล้านคะแนน

นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต KTC กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา การช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจาก 30% เป็น 40 % โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่าน e-Marketplace ต่างๆ มีการเติบโตมากขึ้นถึง 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2563 สำหรับแคมเปญ “KTC มีแต้มต่อ” ในปี 2563 หมวดช้อปปิ้ง (ช่องทางออนไลน์และออฟไลน์) มีจำนวนสมาชิกนำคะแนนสะสม KTC FOREVER มาแลกสินค้าหรือบริการมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในพอร์ต โดยยอดรวมคะแนนที่มีการนำมาแลกทั้งสิ้นกว่า 1,800 ล้านคะแนน และคาดว่าครั้งนี้จะมีการแลกคะแนนมากกว่า 700 ล้านคะแนน

“ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด KTC ได้ปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงโดย เน้นทำการตลาดในหมวดที่ลูกค้าใช้จ่าย ได้แก่ หมวดประกัน เติมน้ำมัน E-Market place ซูเปอร์มาร์เก็ต อุปกรณ์สื่อสาร และโรงพยาบาล และ คะแนน KTC FOREVER ถือว่ามีความคุ้มค่า และเป็นจุดแข็งของบริษัท ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ถือบัตร” นางพิทยากล่าว