HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 11.30 จุด ถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หลังราคาปรับตัวได้ดีในช่วงก่อนหน้า นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2.8 พันล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3.7 พันล้านบาท แนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ คาดดัชนีแกว่งในกรอบ 1,600-1,620 จุด แนะนำหุ้นเด่น GULF-NER-JMT ย่อสะสมหุ้น KBANK
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 30 ก.ย. 2564 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,605.68 จุด -11.30 จุด หรือ -0.70% มูลค่าการซื้อขาย 90,650.11 ล้านบาท
นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,819.58 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,160.26 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3,735.31 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 244.53 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยพักฐานลงมา ปิดลบ 11.30 จุด เมื่อเทียบกับตลาดเอเชียวันนี้โดยรวมอยู่ในแดนบวกสลับลบ ซึ่งหุ้นไทยถูกกดดันจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก กังวลสถานการณ์น้ำท่วมและวันนี้มีแรงขายทำกำไรในกลุ่มธนาคาร ที่ปรับตัวได้โดดเด่นในช่วงก่อนหน้า รวมถึงแรงขายกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หลังตอบรับราคาเงินบาทอ่อนค่าไปพอสมควร และมีความกังวลเรื่องน้ำท่วมโรงงานด้วย
ส่วนแนวโน้มของตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค. 2564) คาดว่าดัชนีน่าจะปิดยืนเหนือ 1,600 จุดได้ เนื่องจากตลาดดาวโจนส์ ฟิวเจอร์ และตลาดยุโรปอยู่ในแดนบวก ทำให้มองว่าตลาดจะเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,600-1,620 จุด การลงทุนควรเลือกหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัว โดยหุ้นที่มีประเด็นบวกในช่วงถัดไปแนะนำ GULF และเมื่อตลาดย่อตัวแนะนำสะสม KBANK ส่วนหุ้นแนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งหลังเติบโตแนะนำ NER และ JMT
ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามตามได้แก่ การปลดล็อกงบประมาณและเพดานหนี้ของสหรัฐ และงการรายงานตัวเลข PMI ของสหรัฐและยุโรป รวมถึงติดตามภาวะเศรษฐกิจจีนด้วย
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 133.50 บาท -4.00 หรือ -2.91% มูลค่าการซื้อขาย 5,280.32 ล้านบาท
GUNKUL ปิดที่ 4.86 บาท +0.06 หรือ +1.25% มูลค่าการซื้อขาย 5,164.43ล้านบาท
SCB ปิดที่ 122.00 บาท -2.50 หรือ -2.01% มูลค่าการซื้อขาย 3,270.95 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 3.80 บาท -0.20 หรือ -5.00% มูลค่าการซื้อขาย 3,214.51 ล้านบาท
UBE ปิดที่ 2.06 บาท -0.34 หรือ -14.17% มูลค่าการซื้อขาย 3,047.36 ล้านบาท