SALEE ย้ำปี’64 กำไรชัวร์ ปรับกลยุทธ์เพิ่มลูกค้า

HoonSmart.com>> “สาลี่อุตสาหกรรม” มั่นใจรายได้โตเข้าเป้า 10% เห็นกำไรแน่ปี 64 คาดครึ่งหลังโตกว่าครึ่งแรก  ไตรมาส 3 ทรงตัว ปรับกลยุทธ์ ขยายขยายฐานลูกค้าในหลายอุตสาหกรรม  กระจายความเสี่ยง ลุ้นไตรมาส 4 การบริโภคประเทศฟื้น  ปี 65 ยิ่งดีขึ้น

นายสุพจน์ สุนทริคะ กรรมการ และเลขานุการบริษัท บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม (SALEE) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2564 ยังสามารถเติบโตได้ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,202 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิได้ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 0.62 ล้านบาท  ในปีนี้ธุรกิจรับจ้างผลิตและส่งออกไปต่างประเทศ (OEM) ของลูกค้ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ , ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เติบโตตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

แนวโน้มในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกที่ผ่านมา ที่มีรายได้อยู่ที่ 636 ล้านบาท และกำไรสุทธิ  6.71 ล้านบาท  คาดว่าในไตรมาส 4  จะมีการเติบโตที่ดีขึ้นค่อนข้างมาก จากการบริโภคที่เริ่มฟื้นตัว และการผ่อนคลายมาตรการของภาครัฐต่างๆ รวมถึงการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของธุรกิจ OEM

ขณะเดียวกันในไตรมาส 3 บริษัทคาดว่าผลประกอบการจะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อยใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ที่มีรายได้อยู่ที่ 306 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 3.86 ล้านบาท โดยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ภาครัฐมีการล็อกดาวน์ ทำให้การอุปโภคบริโภคชะลอตัวลง แต่ปัจจุบันเริ่มเห็นการฟื้นตัวมาแล้วในช่วงปลายเดือน ก.ย.ปัจจุบันสามารถผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้าได้อย่างเต็มกำลังการผลิต โดยไม่มีการหยุดสายการผลิต

ด้านราคาต้นทุนวัตถุดิบบางส่วนได้ปรับตัวขึ้นตามทิศทางของราคาน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันเริ่มอยู่ในระดับที่ทรงตัวแล้ว เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยบริษัทได้เจรจาปรับราคาขายผลิตภัณฑ์กับลูกค้าบางส่วนเรียบร้อยแล้ว ส่วนบางผลิตภัณฑ์ก็อาจจะมีการปรับราคาขายล่าช้าไปบ้างเล็กน้อย

“ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราได้วางกลยุทธ์ ที่จะพยายามกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ โดยไม่พึ่งพาอุตสาหกรรมใดอุสาหกรรมหนึ่ง ด้วยการขยายฐานลูกค้าในหลากหลายมากขึ้น และเจาะพื้นที่ที่มีลูกค้าอุตสาหกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ พื้นที่ EEC รวมถึงพยายามคิดค้นรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์มากขึ้น”

ส่วนในปี 2565 บริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปี 2564 เนื่องจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งการบริโภค และการเดินทางต่างๆ ตามแนวโน้มการฉีดวัคซีนที่มากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมต่างๆในประเทศจะดีขึ้นค่อนข้างมาก และทิศทางต่างประเทศก็คาดว่าจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง