HoonSmart.com>> “สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี” คาดรายได้ปี 64 โต 15-20% ตามการผลิตรถยนต์ 1.65-1.7 ล้านคัน เครื่องจักรกลการเกษตร 8.5-9 หมื่นคัน รับไตรมาส 3 สะดุด หลังล็อกดาวน์ ทำได้ใกล้เคียงไตรมาส 2 ส่วนไตรมาส 4 ออเดอร์สูงเกินคาด เงินบาทอ่อนหนุน ส่วนปี 65 เดินหน้าเป็นโฮลดิ้งส์ โชว์ออเดอร์ใหม่เข้ามารอในไตรมาส 2 มูลค่ารวมเกือบ 300 ล้านบาท
น.ส.นภัสร กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2564 จะเติบโตประมาณ 15-20% จากปีก่อนมีรายได้รวมที่ 6,026.37 ล้านบาท การเติบโตสอดคล้องตามอุตสาหกรรมรถยนต์คาดว่าจะผลิตในปีนี้ประมาณ 1.65-1.7 ล้านคัน และเติบโตตามอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรประมาณ 85,000-90,000 คัน มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ตอนแรกอยู่ที่ 83,000-85,000 คัน โดย 2 ธุรกิจมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 70-75% และ 20-25% ของรายได้รวม ตามลำดับ
แนวโน้มครึ่งปีหลัง ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 3 การล็อกดาวน์ ส่งผลกระทบต่อบริษัทบ้าง คาดว่ารายได้จะใกล้เคียงกับไตรมาส 2 อยู่ที่ประมาณ 2,041 ล้านบาท และในไตรมาส 4 จะเติบโตดีขึ้นมาก จากคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และทิศทางเงินบาทที่อ่อนค่าก็ส่งผลให้รายได้ดีขึ้นด้วย ส่วนราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น บริษัทได้เจรจาปรับราคากับลูกค้า คาดว่าในปี 2565 จะสามารถชดเชยผลกระทบจากราคาเหล็กในปี 2564 ที่ปรับตัวสูงขึ้นได้
ส่วนธุรกิจ Robotics and Automation ก็เป็นธุรกิจใหม่ที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าจะมีสัดส่วนรายได้ไม่ถึง 1% ของรายได้รวม แต่ในอนาคตบริษัทมีแผนจะต่อผลิตภัณฑ์เชิงวิศวกรรม ที่เข้ามาตอบโจทย์ให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งจะยังอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องจักรกลการเกษตรอยู่
“ในปี 2565 เราเชื่อว่ายังมีการเติบโต โดยปกติแล้วจะเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมอยู่เสมอ เนื่องจากมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาทุกปี และปีหน้าเรามีคำสั่งซื้อมาแล้วในไตรมาส 2 ประมาณ 2 รายการ มูลค่ารวมเกือบ 300 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มมีรายได้เข้ามาประมาณช่วงครึ่งหลังของปี 2565” น.ส.นภัสร กล่าว
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างเป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ คาดว่ากระบวนการจะจบสิ้นในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ โดยได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะโอนธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยต์ Axle Shaft ให้กับบริษัท สมบูรณ์ ฟอร์จจิ้ง เทคโนโลยี (SFT) ที่ SAT ถือหุ้นอยู่ 99.99% และเลือกให้เป็นบริษัทแกนหลัก โดยการปรับโครงสร้างในครั้งนี้จะไม่กระทบต่อผู้ถือหุ้น SAT แต่อย่างใด