STECH คว้างานใหม่กว่า 320 ลบ. หนุน Q3/64 เด่น ลุยประมูลโปรเจ็กต์ใหญ่

HoonSmart.com>>สยามเทคนิคคอนกรีต” คว้างานใหม่มูลค่ากว่า 320 ล้านบาท หนุน Q3/64 ส่งสัญญาณบวก อุตสาหกรรมก่อสร้างเร่งเดินหน้า เปิดประมูลงานใหม่ต่อเนื่องเพิ่มเติมอีกราว 600 ล้านบาท มองครึ่งปีหลังเด่นกว่าครึ่งปีแรก

นายวัฒน์ชัย มงคลศรีสวัสดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต (STECH) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ เดินหน้ารับโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งจากภาครัฐบาลและเอกชน รวมมูลค่ากว่า 320 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่ได้รับในเดือน ก.ค.-ส.ค. 64 สนับสนุนภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตตามแผน และมองว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก รับอุตสาหกรรมงานก่อสร้างและงานโครงสร้างพื้นฐานเริ่มเดินหน้าและเร่งส่งมอบภายในปีนี้

โดยงานโครงการภาครัฐที่บริษัทฯ ได้รับมาเพิ่มเติม อาทิ งานประมูลขายเสาไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่ากว่า 63 ล้านบาท, งานเสาเข็มเขื่อนป้องกันน้ำท่วมในหลายพื้นที่ รวมมูลค่าประมาณ 153 ล้านบาท, โครงการเสาเข็มสปัน, เสาเข็ม คานสะพาน โครงการมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ประมาณ 30 ล้านบาท

นอกจากโครงการภาครัฐแล้ว STECH ยังได้รับงานโครงการภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานเสาเข็ม โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์ จ.ศรีสะเกษ , งานเสาเข็ม โครงการไทวัสดุ สาขาชัยภูมิ , งานเสาเข็ม หมู่บ้านโครงการออกัส สาทร – ราชพฤกษ์ , งานเสาเข็มสปัน โครงการก่อสร้าง คอนโด Esque Condo Sukhumvit กทม. และ งานเสาเข็มสปัน โครงการคอนโด The Origin E22 Station สุขุมวิท ถนนสายลวด จ.สมุทรปราการ มูลค่ารวมประมาณ 26 ล้านบาท

“ภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากภาครัฐบาลและเอกชนเริ่มมีงานประมูลออกมาแล้ว โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เราก็คว้างานใหม่เข้ามาเสริม Backlog แล้วกว่า 3 ร้อยล้านบาท และ อยู่ระหว่างติดตามการประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่องอีก หรือคิดเป็นมูลค่างานประมาณ 600 ล้านบาท เช่น งานเสาเข็มสปัน โครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน และ งานเสาเข็มสปัน โครงการรถไฟไทยจีน เป็นต้น ส่วนงานโครงการก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 115 kV มูลค่าประมาณ 104 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งได้รับใบสั่งจ้างเรียบร้อยแล้ว คาดจะมีการเซ็นสัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ภายในเดือนกันยายนนี้ และทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป” นายวัฒน์ชัย กล่าว

อย่างไรก็ดี งานคอนกรีตอัดแรงถือเป็นรากฐานสำคัญอันดับต้นๆ ในงานก่อสร้าง บริษัทฯ จึงเชื่อว่าจะได้อานิสงส์ในงานเมกะโปรเจ็กต์ที่เริ่มทยอยออกมาตามแผน อีกทั้ง บริษัทฯ มีโรงงาน 9 แห่ง ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคใต้ ทำให้มีความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะโรงงานแห่งที่ 10 ที่ชลบุรี สาขาที่ 2 จะแล้วเสร็จช่วงปลายปีนี้ เป็นอีกกำลังเสริมทัพการเข้ารับงานโซนภาคตะวันออก รวมถึงโปรเจ็กต์ EEC เป็นโอกาสการเติบโตในปี 2565 ต่อเนื่อง