ดาวโจนส์ปิดลบ 50 จุด รอเฟด

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 50 จุด นักลงทุนซื้อขายระมัดระวังรอผลประชุมเฟด ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่บวก ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 21 กันยายน 2564 ปิดที่ 33,919.84 จุด ลดลง 50.63 จุด หรือ 0.15% แม้ระหว่างวันได้ปรับขึ้นสูงถึง 300 จุด นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีทั้งเรื่อง อัตราดอกเบี้ยและการคาดการณ์เศรษฐกิจ

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,354.19 จุด ลดลง 3.54 จุด, -0.08%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,746.40 จุด เพิ่มขึ้น 32.50 จุด, +0.22%

นักลงทุนรอการแถลงของเฟด ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ โดยเฉพาะเวลาที่จะเริ่มการลดซื้อพันธบัตร รวมทั้งการคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาส และทิศทางดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์ BMO Wealth Managementระบุว่า นักลงทุนยังจับตารายงาน dot plot ว่าจะไม่ได้ทำให้ตลาดตื่นตะหนก

ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่บริษัทเอเวอร์แกรนด์ ผู้พัฒนาตลาดบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนซึ่งมีหนี้จำนวนมากอาจจะผิดนัดชำระหนี้

บริษัท เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมีนาคม2565 จำนวน83.5 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 23 กันยายน และต้องจ่ายดอกเบี้ย 47.5 ล้านดอลลาร์ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมีนาคม 2567 ในวันที่ 29 กันยายน ซึ่งหากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยของหุ้นกู้สองล็อตได้ภายใน 30 วันหลังจาก วันกำหนดจะถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเอเวอร์แกรนด์จะผิดนัดชำระหนี้ และหลายคนกังวลจะลุกลามเหมือนวิกฤติเลห์แมนบราเธอร์สใน 13 ปีก่อน

เอ๊ด ยาร์เดนี จาก Yardeni Research ระบุว่า ทางการจีนตระหนักดีถึงกรณีเอเวอร์แกรนด์รวมทั้งผลที่จะตามมาหากปล่อยให้บริษัทล้ม จึงแทรกแซงเพื่อปรับเปลี่ยนสถานการณ์

นอกจากนี้ตลาดยังกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสเดลตาเพราะเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวและยังมีประชากรส่วนหนึ่งที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

กระทรวงพาณิชย์รายงานการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 3.9% มาที่ระดับ 1.615 ล้านยูนิต สูงกว่า 1.555 ล้านยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด
หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ลดลง 2.8% และหุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ ลดลง 4.84% หลังจากมีรายงานว่า หลายรัฐในสหรัฐได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมืองบอสตันให้ดำเนินคดีกับสายการบินทั้งสองแห่งในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่เพิ่มขึ้น 3.2% หลังสหรัฐฯได้อนุญาตให้ผู้ที่ฉัดวัคซีนครบแล้วจากอังกฤษและสหภาพยุโรปเดินทางเข้าได้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯและเกาะติดปัญหาหนี้ของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ ผู้พัฒนาตลาดบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 458.68 จุด เพิ่มขึ้น 4.56 จุด, +1.00%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,980.98 จุด เพิ่มขึ้น 77.07 จุด, +1.12%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,552.73 จุด เพิ่มขึ้น 96.92 จุด, +1.50%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,348.53 จุด เพิ่มขึ้น 216.47 จุด, +1.43%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 70.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 74.36 ดอลลาร์ต่อ