HoonSmart.com>>ดีเฮ้าส์พัฒนา เร่งดำเนินการ UPark Market โครงการมิกซ์ยูส พร้อมแผนการเปิดโครงการ River Condo คอนโดมีเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น ชูกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุน รักษาความสามารถการทำกำไร
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา (DHOUSE ) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2564 บริษัทเร่งดำเนินงานโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารที่มีการใช้งานแบบผสมผสาน ( Mixed-Use) ตั้งอยู่บนถนนสายบ้านท่าขอนยาง-บ้านขี ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
โครงการดังกล่าว ถือเป็นแหล่งศูนย์รวมไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ บนเนื้อที่ 12 ไร่ 3 งาน 52 ตร.ว. ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1. สถานีบริการน้ำมัน และร้านค้าปลีก ภายใต้แบรนด์ ปตท. ขนาด 4 เครื่อง 16 หัวจ่าย และร้านค้าเสริม 2 อาคาร 2. UPark Street อาคาร Street Food ขนาด 1,990 ตร.ม. ประกอบด้วย ร้านขายอาหาร 86 ร้าน และลานโล่งสำหรับวางเต็นท์ ขายสินค้า ขนาด 7,010 ตร.ม. ประกอบด้วย ร้านอาหาร 26 ร้าน และ ร้านค้า 132 ร้าน ขณะนี้ได้รับการอนุญาตก่อสร้างแล้ว และคาดว่าพร้อมทยอยให้บริการในช่วงไตรมาส 1/65
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดโครงการ River Condo คอนโดมีเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 336 ยูนิต ริมคลองสมถวิล จ.มหาสารคาม พื้นที่โครงการ 3 ไร่ ภายใต้แนวคิด สุนทรียภาพของการใช้ชีวิต ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งสระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ คลับเฮ้าส์ และ ฟิตเนส คาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาส 2/65
ทั้งนี้ บริษัทมีการทำแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เตรียมความพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจ โดยมีโครงการในอนาคตตามแผนการพัฒนาที่ดินทุกแปลงของบริษัทหลากหลายรูปแบบ มุ่งเน้นกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุน เพื่อรักษาความสามารถการทำกำไร รวมไปถึงการสร้าง Landmark แห่งใหม่ภายในมหาวิทยาลัยมหาสารคามในรูปแบบมิกซ์ยูส ในนาม UPark Market รวมถึงการขยายไปสู่คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ รูปแบบลักษณะผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่เปิดขาย 3 โครงการ มูลค่ารวม 803.63 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเดอะแกรนด์ คาแนล โครงการแกรนด์ บิซ และโครงการพฤกภิรมย์ หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จะมียอดจองและยอดโอนทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 บริษัทมีรายได้รวม 37.54 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 47.07 ล้านบาท จำนวน 9.53ล้านบาท หรือลดลง 20.24% และมีขาดทุนสุทธิ 2.39 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวลดลงเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กลับมาระบาดหนักและทวีความรุนแรงในช่วงไตรมาส 2/64 ส่งผลให้การดำเนินงานบางส่วนของบริษัทเกิดความล่าช้า กระทบถึงแผนการโอนกรรมสิทธิ์บ้านไม่เป็นไปตามคาด