UREKA ปรับป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 40% จาก 30%

“ยูเรกา ดีไซน์” ไตรมาส 2 พลิกโชว์กำไร 10.9 ล้านบาท เติบโต 151% จากขาดทุน 23.13 ล้านบาท ชี้อยู่ระหว่างประมูลงานใหม่มูลค่ารวมกว่า 700 ล้านบาท คาดรู้ผลไตรมาส 3-4 นี้ พร้อมเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 40% จากเดิมไม่ต่ำกว่า 30% และเพิ่มเป้าอัตรากำไรขั้นต้น 30-35% จากเดิม 25%

นายวิเชษฐ์ เมืองจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ (UREKA) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/2561 มีรายได้รวม อยู่ที่ 94.71 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 128% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 41.56 ล้านบาท และพลิกมีกำไรอยู่ที่ 10.9 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 151% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 23.13 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ผลประกอบการกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ มีสาเหตุหลักจากบริษัทฯ มีการขยายชนิดสินค้าและฐานลูกค้าเพิ่มต่อเนื่องมาจากปี 2017

วิเชษฐ์ เมืองจันทร์

กรรมการผู้จัดการ UREKA กล่าวอีกว่า บริษัทฯได้ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปีนี้เป็นเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากเดิมที่คาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 247 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกทำได้ดี พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีงานอยู่ระหว่างยื่นประมูล มูลค่ารวมอีก 700 ล้านบาท แบ่งเป็นงานกลุ่มลูกค้า Automotive ประมาณ 150 ล้านบาท งานกลุ่มลูกค้า Non-Automotive อีกประมาณ 550 ล้านบาท และคาดว่าจะทราบผลภายในไตรมาส 3-4/2561 รวมมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือยังคาดการณ์ได้ไม่ชัดเจนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของลูกค้าว่าจะลงทุนทันในสิ้นปีนี้หรือไม่ แต่คงจะรู้ผลในไม่เกินไตรมาส 1/2562 อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ บริษัทฯได้ปรับเพิ่มเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มขึ้นเป็น 30-35% จากเดิมที่วางไว้ 25% เนื่องจากบริษัทฯสามารถบริหารจัดการบริหารต้นทุนทางตรงได้ดีขึ้นประกอบกับมียอดที่ขายตรงให้ลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นและสามารถแข่งขันในสัดส่วนที่มีมาร์จิ้นสูงทำให้ในงวดครึ่งปีแรกบริษัทฯสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้สูงถึง 36%

“ภาพรวมอุตสาหกรรมอัตโนมัติเริ่มมองเห็นทิศทางอัตราการขยายตัวดีขึ้น หลังจากมีการประชาสัมพันธ์เรื่องนโยบาย Thailand 4.0 และแนวโน้มด้านแรงงานเริ่มหายากขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มมาสนใจการปรับเปลี่ยนกระบวนการเป็นระบบอัตโนมัติเพื่อลดการพึ่งพาแรงงานนอกจากนี้ ยังมีมาตรการภาษีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของ BOI ที่ยกเว้นภาษีเงินได้ 100% ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาลงทุนด้านระบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น โดยปัจจัยดังกล่าวสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทฯให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง” นายวิเชษฐ์ กล่าว